แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แนะปวดไหล่ รักษาให้ถูกต้อง

ที่มา :  เว็บไซต์แนวหน้า


แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แนะปวดไหล่ รักษาให้ถูกต้อง thaihealth


แฟ้มภาพ


หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ของการปวดไหล่ โดยเฉพาะเวลาบิดหมุนข้อไหล่ อาการปวดไหล่ มีสาเหตุในการเกิดมากมายหลายอย่าง ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาภายในข้อไหล่เอง อาจจะเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็น กล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆ บริเวณข้อไหล่ ซึ่งอาการปวดไหล่มักจะมีอาการแย่ลง และปวดเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ อาการปวดมักจะเริ่มมีอาการปวดบริเวณหัวไหล่ และร้าวไปยังบริเวณต้นแขน โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี อาจจะมีอาการปวดบริเวณหัวไหล่เมื่อหมุนไหล่ในการใส่เสื้อชุดชั้นใน หรือเสื้อยืด บางครั้งอาการปวดหัวไหล่อาจเกิดจากโรคหมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อมกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดร้าวมายังที่บริเวณหัวไหล่ ตามเส้นประสาทที่ถูกกดทับ


ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้ความรู้ถึงสาหตุและการรักอาการปวดไหล่ ว่า ส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหาการอักเสบ และการเสื่อมของเนื้อเยื่ออ่อน เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น มากกว่าเกิดจากกระดูก ส่วนใหญ่มักแบ่งได้เป็น


เส้นเอ็นอักเสบหรือถุงน้ำอักเสบ: โดยเส้นเอ็นมีลักษณะเป็นเส้นเป็นส่วนต่อระหว่างกล้ามเนื้อและกระดูก เส้นเอ็นอักเสบส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากกระบวนการเสื่อมสลายที่เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ป่วยมักเริ่มมีอาการปวดไหล่เพียงเล็กน้อย อาการจะเป็นๆหายๆ เริ่มมีอาการอ่อนแรงของข้อไหล่และข้อไหล่เคลื่อนไหวลำบากโดยเฉพาะท่าที่ยกแขนขึ้นไปเหนือศีรษะ อาการเส้นเอ็นอักเสบชนิดเฉียบพลันอาจจะหายไปได้ถ้าผู้ป่วยหยุดกิจกรรมที่ทำให้เกิดอาการเป็นระยะเวลานานพอสมควรเพื่อที่จะให้ไหล่ได้พัก ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดเพื่อยืดเส้นเอ็น และการประคบด้วยความร้อน ถ้าอาการรุนแรงมากขึ้นผู้ป่วยอาจต้องรับประทานยาลดการอักเสบ หรือการฉีดยาสเตียรอยด์ถ้ารักษาด้วยการรับประทานยา และฉีดยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นอาจจะต้องตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอยากเพิ่มเติมเพื่อดูว่ามีการฉีกขาดของเส้นเอ็นหรือไม่ และตรวจแยกโรคอื่นออกไป


นอกจากนี้ ยังมีการเกิดหินปูนภายในเส้นเอ็นที่ยึดเกาะบริเวณข้อไหล่ก่อให้เกิดการอักเสบ จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดบริเวณหัวไหล่ขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน ไม่สามารถขยับข้อไหล่ได้เพราะมีอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก หรือโรคข้อไหล่ติด ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคข้อไหล่ติดยึดได้แก่ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเป็นโรคนี้ประมาณร้อยละ 10-20 อาการข้อไหล่ติดมักเกิดในช่วงอายุประมาณ 40-65 ปี เกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิง


สำหรับการรักษาเริ่มต้นส่วนใหญ่มักให้ยาลดการอักเสบ และยาบรรเทาปวดเพื่อทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้นการทำกายภาพบำบัดเพื่อให้ข้อไหล่สามารถกลับมาใช้งานและเคลื่อนไหวให้ได้เหมือนเดิม การประคบด้วยความร้อน


การฉีดยาสเตียรอยด์เฉพาะที่ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นอาจต้องตรวจพิเศษด้วยเครื่อง MRI เพื่อดูว่ามีพยาธิสภาพอย่างอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่นเส้นเอ็นไหล่มีการฉีกขาด การผ่าตัดมักทำในกรณีที่ให้การรักษาด้วยวิธีข้างต้นไม่ดีขึ้นเป็นระยะเวลานานหลายเดือน การผ่าตัดมักจะใช้วิธีส่องกล้องเข้าไปแล้วตัดสลายพังผืด ถ้าพบว่ามีการฉีกขาดของเส้นเอ็นก็อาจจะผ่าตัดซ่อมแซมร่วมด้วย


ดังนั้น การซักประวัติและการตรวจร่างกาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถให้การวินิจฉัยโรคได้แม่นยำเพิ่มมากขึ้นและสามารถให้การรักษาได้ถูกต้องตรงตำแหน่งกับรอยโรคที่เป็น สำหรับกรณีของผู้ป่วยที่มีปัญหาเส้นเอ็นไหล่อักเสบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่มักเกิดจากกระบวนการเสื่อมของเส้นเอ็นร่วมกับการเสื่อมของกระดูกบริเวณหัวไหล่ ทำให้เกิดการเสียดสีของเส้นเอ็นในบริเวณหัวไหล่และกระดูกในบางครั้งอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นเอ็น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดไหล่มาก ไม่สามารถยกไหล่ขึ้นเหนือศีรษะได้ปวดมากขึ้นเวลาบิดหมุนข้อไหล่ และเกิดอาการอ่อนแรงรอบๆ ข้อไหล่ สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาอาการปวดไหล่คือการวินิจฉัยที่ถูกต้องแม่นยำ


ซึ่งการใช้ยาสเตียรอยด์ฉีดเพื่อลดอาการอักเสบข้อเส้นเอ็นสามารถบรรเทาปวดในผู้ป่วยที่มีปัญหาเส้นเอ็นอักเสบได้อย่างมาก ที่สำคัญสำหรับการฉีดยาสเตียรอยด์คือ ต้องไม่ฉีดเข้าไปภายในเส้นเอ็นโดยตรง เพราะจะทำให้เส้นเอ็นเกิดการฉีกขาดได้ ควรฉีดเข้าไปที่ชั้นระหว่างเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดยาสเตียรอยด์ไปประมาณ 2 ครั้งแล้วอาการปวดไม่ดีขึ้นก็สมควรที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่บริเวณหัวไหล่ เพื่อประเมินลักษณะของการอักเสบ การฉีกขาดของเส้นเอ็น รวมทั้งกายวิภาคของกระดูกในบริเวณไหล่ ซึ่งสามารถช่วยให้แพทย์ให้การรักษาที่ถูกต้องต่อไปได้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นร่วมกับการตรวจพบว่ามีการฉีกขาดของเส้นเอ็นบริเวณหัวไหล่ การรักษาด้วยการส่องกล้องเข้าไปยังบริเวณข้อไหล่ร่วมกับการเย็บซ่อมแซมเส้นเอ็นส่วนที่ฉีกขาดก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดไหล่ และทำให้การทำงานของไหล่ข้างที่มีพยาธิสภาพนั้นทำงานได้ดียิ่งขึ้น


ถ้าท่านใดเริ่มต้นมีอาการไหล่ติดควรไปพบศัลยแพทย์กระดูกก่อนเพื่อให้แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายเพื่อการวินิจฉัยโรคและให้การรักษาที่ถูกต้องเพื่อลดความทรมานจากอาการปวดไหล่ ข้อไหล่ติด รวมทั้งสามารถใช้ไหล่ทำงานได้ดีเป็นปกติ

Shares:
QR Code :
QR Code