แพทย์ผิวหนังแนะระวังเสียโฉมจากหมอกระเป๋า
พบคนไทยนิยมรับบริการทางการแพทย์เพื่อความงามกันมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ทำให้พบผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการเหล่านั้นมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการทำหัตถการด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานจากคนที่ไม่ใช่แพทย์
พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวในงานครบรอบ 40 ปี สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ว่า ขณะนี้คนไทยนิยมรับบริการทางการแพทย์เพื่อความงามกันมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ทำให้พบผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการเหล่านั้นมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการทำหัตถการด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานจากคนที่ไม่ใช่แพทย์ การใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมกับผู้ป่วย เช่น
การทำเลเซอร์โดยผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เกิดผิวหนังไหม้ แดง ดำ พองเป็นตุ่มน้ำ การทำไอพีแอล (IPL) ทำให้ผิวหนังไหม้เป็นริ้วๆ มีตุ่มน้ำพองๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษาแผลดังกล่าวอีกเป็นเวลานานถึง 5 เดือนจึงทำให้ผิวหนังกลับสู่สภาพปกติ หรือทำให้สีผิวผิดปกติเป็นจุดสีดำ หรือสีขาว จากการใช้ที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียและพบทำให้แผลอักเสบกลายเป็นรอยแผลเป็นจากการทำหัตถการขึ้นมาอีก
“หลังๆนี้พบหมอกระเป๋าที่หิ้วเครื่องมือแพทย์มาเปิดให้บริการตามตลาดและคิดราคาถูกๆ 30-50 บาทเท่านั้น ไปฉีดท็อกซีน ฟิลเลอร์ ติดเชื้อ เนื้อตาย ตาบอด ทำให้ผู้มารับบริการได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยขณะนี้มีผู้มารับบริการแก้ไขความบกพร่องหรือผลกระทบจากการรับบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ รพ.ศิริราช อย่างน้อยเดือนละ 1 คน โดยเฉพาะฟิลเล่อร์ เรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก” พญ.รังสิมา กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต