แผน 1 ปี สสส.ชูแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ

‘วิทยา’ย้ำแผน 1 ปีสสส.’ชูแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ’

'วิทยา'ย้ำแผน1 ปีสสส.'ชูแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ'

ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานคนที่ 1 สสส. กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบแผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2555-2557 และแผนการดำเนินงานประจำปี 2555 โดยที่ประชุมต้องมีการปรับแผนการดำเนินงานรายปีให้สอดรับกับนโยบายเร่งด่วน 1ปีของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงแผนการดำเนินงาน 3 ปี ให้สอดคล้องกับแผนรายปี และการดำเนินงานตามวาระ 4ปีของรัฐบาล โดยการยกระดับแผนงานด้านอาหารและโภชนาการเป็น “แผนอาหารเพื่อสุขภาวะ” ซึ่งจะเน้นย้ำเรื่องการให้ความสำคัญการดูแลแหล่งกำเนิด และแหล่งผลิตอาหารในภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย

“ที่ผ่านมาการผลิต-บริโภคอาหารของคนไทย ส่งผลเสียต่อสุขภาพสูงมาก ทั้งภาวะอ้วนลงพุงที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม พบว่า เด็กไทย 25.3% ดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีรสหวานทุกวัน ในขณะที่บริโภคผักผลไม้เพียง 0.7-1.3 ส่วนมาตรฐานต่อวัน นำไปสู่เด็กไทยอ้วนและมีระดับเชาว์ปัญญาลดลงเหลือเพียง 88-91 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ คือ 90-110 นอกจากนี้ ข้อมูลทางระบาดวิทยาจากการตรวจพิษสารเคมีเกษตรในเลือดของเกษตรกรและ ผู้บริโภค พบระดับความเสี่ยงในระดับไม่ปลอดภัยมากกว่า 50% ในทุกกลุ่ม สะท้อนถึงปัญหาการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสมและไม่ปลอดภัย ดังนั้น สสส.จึงพัฒนายกระดับให้มีแผนอาหารเพื่อสุขภาวะขึ้น เพื่อร่วมมือและร่วมสนับสนุนภาคีภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ เตรียมพร้อมรับมือวิกฤติอาหารและสุขภาพในอนาคต” นายวิทยา กล่าว

นอกจากนี้ นายวิทยา กล่าวอีกว่า เป้าหมายปี 2555-2557 จะเน้นบูรณาการทำงานลดปัจจัยเสี่ยงในด้านต่างๆ ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นให้มากขึ้น โดยการดำเนินงานลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ อาทิ แผนควบคุมยาสูบ ตั้งเป้าลดอัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทย ที่ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 32.0% ในปี 2534 เป็น 20.7% ปี 2552 ให้ลดลงอีกจนเหลือ 18.6% ภายในปี 2557 แผนควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด ต้องการลดอัตราการดื่มของคนไทยในปี 2557 ให้เหลือน้อยกว่า 28.5% จาก 30% ในปี 2550 ส่วนแผนการจัดการความปลอดภัยทางถนนและภัยพิบัติ ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจะต้องบูรณาการงานป้องกันและลดอุบัติเหตุในพื้นที่อย่างมีประสิทธิผล ครอบคลุมอย่างน้อย 75  จังหวัด เพื่อนำไปสู่การลดอัตราการตายบนท้องถนนลงครึ่งหนึ่งในทศวรรษหน้า ตามเป้าหมายร่วมของประเทศ ในประเด็นการจัดการภัยพิบัติ จะต้องเกิดกลไกและแผนเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติร่วมกันในชุมชน อย่างน้อย 3  รูปแบบ เพื่อให้ท้องถิ่นจัดการตนเองและช่วยเหลือพื้นที่ใกล้เคียงได้ รวมทั้งการสนับสนุนระบบบริการและการป้องกันการท้องไม่พร้อมในวัยรุ่น แก้ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เพื่อลดการระบาดของเอชไอวีลง นอกจากนั้นตนได้มอบนโยบายให้วางแนวทางในการจัดทำระบบให้คำปรึกษาวัยรุ่น โดยอาจเป็นลักษณะของศูนย์ให้คำปรึกษา หรือการให้คำปรึกษาผ่านระบบ sms หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค รวมทั้งสนับสนุนให้มีการสื่อสารและให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพกับประชน ป้องกันโรคเบาหวาน และความดันในสถานพยาบาล หรือ รพ.สต. โดยผ่านระบบมัลติมีเดียด้วย

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

Shares:
QR Code :
QR Code