แนะ10 วิธีสร้างความสุขง่าย ๆ ให้กับชีวิต
ที่มา: สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.
แฟ้มภาพ
วันที่20มีนาคม ทุกปี เป็นวันความสุขสากล รพ.จิตเวชนครราชสีมา เผยผลวิจัยต่างประเทศพบปัจจัยที่กำหนดระดับความสุขคนเราทุกคนร้อยละ 30-40 มาจากวิธีคิดของเราเองและกิจกรรมที่เลือกทำ ซึ่งสามารถปฏิบัติได้เองง่าย ๆ10วิธี ทำได้ทุกคน ทุกวัย ทุกวัน โดยเฉพาะแค่การยิ้มอย่างเดียว ผลวิจัยทั่วโลกยืนยันตรงกันว่า ให้ผลดี สมองจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมา รู้สึกผ่อนคลาย สุขสบาย
นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่20มีนาคม ทุกปี เป็นวันความสุขสากล ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ที่คอยผลักดันให้เราทำสิ่งต่าง ๆ โดยหวังว่าตนเองจะมีความสุขมากขึ้น ผลการศึกษาในต่างประเทศพบว่าปัจจัยที่กำหนดระดับความสุขของคนเรา มี3ปัจจัยหลัก ปัจจัยแรกมาจากพันธุกรรม ซึ่งค่อนข้างจะมีความคงที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต ทั้งดีหรือร้าย เช่นกรณีถูกล็อตเตอรี่ ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ความสุขนี้จะเกิดชั่วคราวจากนั้นก็จะค่อย ๆ ปรับลดลงมาอยู่ในระดับเดิม หรือในกรณีมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในชีวิตก็จะมีผลทำให้ระดับความสุขลดลงจากเดิมชั่วคราว จากนั้นระดับความสุขก็จะค่อย ๆ ไต่ละดับขึ้นมาสู่ระดับเดิมในแต่ละบุคคล ซึ่งเทียบได้กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ยังเล็ก
นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่2มาจากวิธีคิดของเราเองและกิจกรรมที่เลือกทำ เป็นปัจจัยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเราเอง เป็นรูปแบบชีวิตที่เราเลือกโดยตั้งใจ เช่นการมองโลกในแง่ดี การมีวิธีแก้ปัญหาเชิงรุก การให้เวลาครอบครัว เป็นต้น ปัจจัยนี้มีส่วนกำหนดระดับความสุขถึงร้อยละ35-40และปัจจัยที่3คือปัจจัยภายนอก ได้แก่สถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต เช่น ฐานะยากจน รวย ความหล่อ ความสวย การขึ้นเงินเดือน อกหัก เป็นต้น มีส่วนกำหนดระดับความสุขได้ประมาณร้อยละ10-15ดังนั้นในการพัฒนาระดับความสุขให้ตัวเรา หลักใหญ่คือการให้ความสำคัญที่ปัจจัยภายในตัวเรา คือความคิดและกิจกรรมที่เราเลือกทำ ซึ่งจะเป็นการสร้างคุณภาพให้จิตใจดี มีข้อแนะนำให้ปฏิบัติ10วิธีง่าย ๆ ประชาชนทุกวัย ทุกสถานะ สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้ 1.ออกกำลังกาย วันละ30นาที อย่างน้อย3ครั้งต่อสัปดาห์2.ก่อนเข้านอนทุกคืน ลองทบทวนสิ่งดี ๆ อะไรก็ได้ที่เกิดขึ้นในชีวิตด้วยความรู้สึกขอบคุณ อย่างน้อยวันละ5เรื่อง3.ให้เวลาพูดคุย รับฟังคู่ครอง หรือเพื่อนสนิท ทุกสัปดาห์ อย่างน้อย1ชั่วโมง โดยไม่มีใครมาขัดจังหวะหรือรบกวน4.ปลูกต้นไม้ต้นเล็ก ๆ เช่นไม้ประดับ ตั้งไว้บนโต๊ะหรือในกระถางก็ได้ แล้วดูแลรักษาให้ดี5.ลดเวลาดูทีวีลงครึ่งหนึ่ง6.หาโอกาสคุยกับเพื่อนฝูงที่ห่างกันไป แล้วลองนัดหมายพบเจอกันบ้าง7.หัวเราะให้มาก ๆ และนานพอทุกวัน8.ส่งยิ้มทักทายคนที่ไม่รู้จัก อย่างน้อยวันละ1ครั้ง9.ใส่ใจดูแลตัวเองทุกวัน ลองใช้เวลาทำบางสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเอง และ10.ลองฝึกตัวเองให้เป็นผู้ให้ ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความใส่ใจ มอบสิ่งดี ๆ ให้แก่คนอื่นบ้าง ซึ่งสามารถทำได้ทุกวัย ทุกสถานะ และทำได้ทุกวัน
“โดยเฉพาะการยิ้มนั้น ให้ผลดีมาก ผลงานวิจัยทั่วโลกยืนยันตรงกันว่าเมื่อคนเรายิ้ม จะส่งผลให้สมองหลั่งสารเคมีที่มีชื่อว่าเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมา จะทำให้มีความรู้สึกสุขสบายและผ่อนคลาย และยังมีการศึกษาต่อไปอีกว่าแม้กระทั่งการฝืนใจยิ้มขณะมีทุกข์ใจก็ตาม ปรากฏว่าสารตัวนี้ก็หลั่งออกมาเช่นกัน ซึ่งที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาฯ มีนโยบายส่งเสริมให้บุคลากรทุกระดับที่มีทั้งหมด366คน มีความสุขทุกมิติ เช่นกาย จิต การเงิน เป็นต้น สนองนโยบายกรมสุขภาพจิตและกระทรวงสาธารณสุข เช่น จัดพิธีตักบาตรทุกวันที่13ของเดือน ออกกำลังกายทุกวันพุธ ปลูกผักปลอดสารพิษ เป็นต้น เมื่อบุคลากรมีความสุข จะสะท้อนออกมาที่คุณภาพบริการผู้ป่วยและญาติดี ส่วนการดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่อาการดีขึ้น จะเน้นการฟื้นฟูทางจิตใจและสังคมโดยกระตุ้นให้ผู้ป่วยยิ้มมากขึ้นเพื่อเป็นสะพานสร้างสัมพันธภาพ ผู้ป่วยจะรู้สึกดีและฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น” นายแพทย์กิตต์กวีกล่าว