แนะ 6 ขั้นตอน ทำน้ำสะอาดใช้ช่วงน้ำท่วม
ที่มา : กรมอนามัย
เเฟ้มภาพ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำ 6 ขั้นตอนทำความสะอาดน้ำใช้ ไว้ใช้ในบ้านช่วงน้ำท่วมพร้อมเตือนนำขวดพลาสติกมาใช้ซ้ำ ควรเลือกที่ไม่มีรอยขีดข่วน ไม่มีคราบสกปรก และทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด น้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนเป็นระยะเวลาหลายวัน ส่งผลให้ระบบประปาหรือน้ำบ่อตื้นไม่สามารถใช้งานได้ เพื่อให้ครัวเรือนมีน้ำสะอาดไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น นำมาซักเสื้อผ้า ล้างสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือนรวมไปถึงนำมาใช้อาบชำระล้างสิ่งสกปรกจากร่างกาย จึงขอแนะนำวิธีทำน้ำสะอาดอย่างง่าย ๆ ไว้ใช้ในบ้านตามขั้นตอน คือ 1) ตักน้ำในบริเวณที่น้ำไม่เน่าเสียหรือมีกลิ่นเหม็น และบริเวณที่น้ำไหลไกลจากห้องน้ำห้องส้วมมาใส่ถังที่มีลักษณะทรงกระบอก เช่น ถังพลาสติก 50 – 100 ลิตร 2) ตักเอาเศษสิ่งของที่ปนมากับน้ำออกให้หมด เช่น ใบไม้ เศษไม้ เศษวัชพืช
3) ใช้มือจับก้อนสารส้มจุ่มลงไปในน้ำลึกประมาณ 2 ใน 3 ของความลึกน้ำในถัง และ 4) ใช้มือที่จับสารส้มกวนน้ำเป็นแนววงกลมให้สารส้มละลาย โดยช่วงแรกให้กวนเร็วจนสังเกตเห็นตะกอนที่เกิดขึ้นมีปริมาณมาก แล้วจึงค่อยลดความเร็วในการกวนลงจนตะกอนมีขนาดใหญ่ ให้หยุดกวน ตั้งทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงจนตะกอนตกสู่ก้นถัง 5) ค่อย ๆ ตักน้ำใสส่วนบน หรือใช้วิธีกาลักน้ำ ถ่ายเทน้ำใสส่วนบนใส่ภาชนะที่สะอาด และวัดปริมาตรน้ำที่ได้ และ 6) หยดคลอรีนน้ำ 2 เปอร์เซ็นต์ หรือหยดทิพย์ที่กรมอนามัยจัดทำขึ้น ในปริมาณ 1 หยด ต่อน้ำ 1 ลิตร ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที โดยให้คลอรีนละลายในน้ำและฆ่าเชื้อโรคอย่างทั่วถึงก่อนนำน้ำมาใช้
“ทั้งนี้ น้ำที่ผ่านขั้นตอนการทำความสะอาดยังไม่เหมาะที่จะนำมาดื่ม หรือปรุงประกอบอาหาร แม้จะนำมาต้มผ่านความร้อนก็ตาม เนื่องจากอาจจะมีสารเคมีบางชนิดปนเปื้อนมากับน้ำท่วม และความร้อนไม่สามารถทำลายได้ จึงเหมาะสำหรับใช้ทำความสะอาดภายในครัวเรือนเท่านั้น เช่น ซักเสื้อผ้า ล้างสิ่งของเครื่องใช้ หรือใช้อาบน้ำ สำหรับน้ำบริโภคควรใช้น้ำดื่มบรรจุขวดแทนจะปลอดภัยที่สุด แต่เนื่องจากในช่วงน้ำท่วมผู้ประสบภัยอาจจะนำขวดพลาสติกมาใช้ซ้ำ ซึ่งบางครั้งไม่ได้ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะบริเวณปากขวดและฝาขวดที่เกิดจากการใช้ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และการขัดถูขวดน้ำเพื่อทำความสะอาด อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน หรือหากขวดน้ำตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความร้อน อาจทำให้ขวดพลาสติกเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการปนเปื้อนสารเคมีจากขวดพลาสติกได้ ดังนั้น หากจำเป็นต้องนำขวดพลาสติกมาใช้ซ้ำ ควรทำความสะอาดให้ทั่วถึง และสังเกตลักษณะขวดหากพบรอยขีดข่วน คราบสกปรก ไม่ควรนำมาใช้ซ้ำอีก” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว