แนะ ‘5 ย.’ ห่างไกลพิษสุนัขบ้า
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า
แฟ้มภาพ
เตือนประชาชนพาสัตว์เลี้ยงฉีดวัคซีน ป้องกันพิษสุนัขบ้า แนะหลัก 5 ย. ลดความเสี่ยงถูกสุนัขกัด
นายแพทย์วิฑูรย์ เหลืองดิลก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรัง กล่าวว่า โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อจากสัตว์มาสู่คนที่มีความรุนแรงมาก ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าปีละหลายร้อยคน ส่วนใหญ่ถูกสุนัข หรือแมวกัดข่วน แล้วไม่ได้ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันอย่างรวดเร็วและครบถ้วน กลุ่มเด็กเป็นกลุ่มที่ถูกสุนัขกัดมากที่สุด และเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 2-8 สัปดาห์ผู้ป่วยจะปวดเมื่อยตามตัว มีไข้ ชาเจ็บเสียวหรือปวดบริเวณรอยแผลที่ถูกกัด อาการของผู้ป่วยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก คือ แบบคลุ้มคลั่งอาจมีอาการกระวนกระวาย ระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติ ประสาทหลอน อาจมีชัก หายใจหอบ หมดสติและเสียชีวิตในที่สุด และ กลุ่มที่ 2 คือ แบบอัมพาต เป็นอาการที่พบได้น้อย โดยมีอาการอัมพาต ของแขน ขา พูดไม่ชัด น้ำลายมาก มีอาการกลัวน้ำ กลัวลม หลังแสดงอาการจะอยู่ได้นานกว่าแบบคลุ้มคลั่งและจะเสียชีวิตในที่สุด
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวต่อไปว่า โรคพิษสุนัขบ้าสามารถป้องกันได้ โดยเจ้าของสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน ครั้งแรกเมื่อสัตว์เลี้ยงมีอายุ 2-4 เดือน แล้วฉีดซ้ำตามกำหนดนัดทุกปี ลดความเสี่ยงถูกสุนัขกัดหรือทำร้าย ด้วยคำแนะนำ 5 ย. คือ 1.อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห โกรธ 2.อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือ ทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่างๆตกใจ 3.อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า 4.อย่าหยิบ ชามข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร และ 5.อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้กับสุนัขหรือสัตว์ต่างๆ นอกบ้านที่ไม่มีเจ้าของ หรือไม่ทราบประวัติ
และประเด็นสำคัญเมื่อถูกสุนัข หรือแมวกัด ข่วน ต้องทำดังนี้ 1.ล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่หลายๆ ครั้งให้ถึงก้นแผลล้างสบู่ออกให้หมด เช็ดแผลให้แห้ง ใส่ยารักษาแผลสด 2.จดจำสัตว์ที่กัดเพื่อสืบหาเจ้าของ/กักสัตว์ไว้ดูอาการ 10 วัน สอบถามประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และสุดท้าย ไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อรับการป้องกันที่ถูกต้อง