แนะออกกำลังกายแบบสะสม

สธ.แนะคนไทยออกกำลังกายแบบ “สะสม” ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายครั้งเดียววันละ 30 นาที ยกตัวอย่างญี่ปุ่นเดินเฉลี่ยวันละ 2 หมื่นก้าว เป็นชาติที่มีอายุเฉลี่ยยืนที่สุดในโลก เชื่อแก้ปัญหาคนไทยขี้เกียจออกกำลังกายได้ ชี้ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วย

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างร่วมรายการบ่ายนี้มีคำตอบ ว่า การที่ประชาชนไม่ออกกำลังกาย เป็นปัญหาระดับองค์การอนามัยโลก (who) จนต้องมีการทำการศึกษาวิจัยว่า สามารถออกกำลังกายสะสมใน 1 วันได้ ไม่จำเป็นต้องออกครั้งเดียว อาจจะเดินขึ้นบันได 1 ครั้ง 10 นาที แล้วทำกิจกรรมอื่นที่เป็นการออกกำลังกายได้ แต่เมื่อรวมเวลาแล้วควรให้ได้ตามที่กำหนดคือ 30 นาทีต่อวัน และต้องทำให้ได้อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ หากออกกำลังกายสะสมได้เช่นนี้จะช่วยแก้ปัญหาประชาชนขี้เกียจออกกำลังกาย เนื่องจากต้องเปลี่ยนชุดและใช้เวลาติดต่อกันอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง

 “การออกกำลังกายจะเป็นการออกกำลังหัวใจด้วย จะช่วยให้ร่างกายสุขภาพดี ลดอัตราเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆ อย่างคนญี่ปุ่นเดินเฉลี่ยวันละ 2 หมื่นก้าว ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศที่มีอายุเฉลี่ยของประชากรมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ต้องประกอบกับการรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการด้วย คือ ใน 1 จานแบ่งเป็น 4 ส่วน ต้องรับประทานผัก 2 ส่วน หรือครึ่งจาน แป้ง 1 ส่วน และโปรตีน 1 ส่วน เชื่อว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-10 ปี จึงจะสามารถทำให้คนไทยมีพฤติกรรมที่ใส่ใจต่อสุขภาพได้และทำให้มีสุขภาพดี” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัด สธ. กล่าวว่า เด็กไทย 30% อยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน จากอาหารที่รับประทานและไม่มีพฤติกรรมเคลื่อนไหว ทำให้เกิดโรคเบาหวาน และเสี่ยงที่จะมีความดันโลหิตสูง นำไปสู่โรคไต หัวใจ และหลอดเลือดในอนาคต เพราะฉะนั้นต้องเริ่มต้นให้เด็กไทยมีพฤติกรรมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพทันที โดยพ่อแม่ ผู้ปกครองจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เช่น กรณีที่ลูกไม่ยอมรับประทานผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาจะต้องใช้วิธีการจูงใจ อาทิ หากรับประทานอาหารนี้แล้วจะได้ทำตามที่ลูกต้องการ เป็นต้น แต่ไม่ควรใช้วิธีการบังคับ เพราะเด็กจะเกิดการต่อต้าน นอกจากนี้ ต้องคิดถึงเรื่องความปลอดภัยตลอดเวลา ไม่ควรให้วิ่งเล่นขึ้นลงบันได หรือวางแก้วน้ำไว้ในที่ที่เสี่ยงต่อการแตกแล้วเกิดอันตรายต่อร่างกาย

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ astv ผู้จัดการ

Shares:
QR Code :
QR Code