แนะวิธีหลีกทาง รถพยาบาลฉุกเฉิน

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


แนะวิธีหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน thaihealth

แฟ้มภาพ


สพฉ. เปิดข้อมูลผู้ป่วยวิกฤตเสียชีวิตช่วงก่อนถึงโรงพยาบาลมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เปิดเหตุส่งตัวผู้ป่วยฉุกเฉินไปรักษาไม่ทันเพราะการจราจรติดขัด


ภายหลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปที่จังหวัดเชียงใหม่ถึงกรณีของรถกระบะคันหนึ่งไม่หลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน ขับปาดหน้า และต่อว่าเจ้าหน้าที่ในขณะที่เจ้าหน้าทีกำลังช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วยฉุกเฉินในรถพยาบาล โดย  นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า ที่ผ่านมาเราพยายามรณรงค์ให้มีการหลีกทางให้กับรถพยาบาลฉุกเฉิน แต่ก็เกิดเหตุการณ์แบบคลิปที่มีการส่งต่อในโลกออนไลน์ในกรณีที่มีรถไม่หลีกทางหรือให้ทางกับรถพยาบาลฉุกเฉินตลอดเวลา


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เราได้เก็บสถิติในขั้นตอนของการนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตจากจุดเกิดเหตุ เพื่อไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล พบว่ายังเป็นไปอย่างล่าช้า โดยผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตต้องเสียชีวิตช่วงก่อนถึงโรงพยาบาลมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเป็นไปอย่างล่าช้า คือ สภาพปัญหาของการจราจรที่ติดขัด และความรู้ความเข้าใจเรื่องการหลีกทางให้กับรถพยาบาลฉุกเฉินของประชาชนที่ยังมีไม่เพียงพอ ดังนั้น การที่เราช่วยกันหลีกทางให้กับรถพยาบาลฉุกเฉินแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ถือเป็นการต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยฉุกเฉินที่นอนรอการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ดีที่สุด


“หลายคนตั้งคำถามว่าการออกเหตุแต่ละครั้งมีผู้ป่วยฉุกเฉินจริงหรือไม่ที่อยู่บนรถพยาบาลนั้นๆ ผมขอยืนยันว่ามีผู้ป่วยจริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยร้ายแรง อาทิ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน อุบัติเหตุที่รุนแรง หรือไม่ก็เป็นรถฉุกเฉินที่กำลังเร่งไปรับผู้ป่วย ดังนั้นหากประชาชนทั่วไปได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนขอทางจากรถพยาบาลฉุกเฉินควรหลีกทางให้ เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าบนรถคันนั้นจะเป็นญาติพี่น้องคุณหรือไม่ และควรจะเป็นเรื่องที่เราปฏิบัติทันทีโดยไม่ต้องคิดว่ามีกฎหมายบังคับหรือไม่ แต่ควรปฏิบัติให้กลายเป็นจิตสำนึก”เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติระบุ


นพ.อนุชา ยังได้แนะนำถึงแนวทางในการหลีกทางให้กับรถพยาบาลฉุกเฉินดังนี้ สำหรับ    แนวทางการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินในสากลนั้นจะปฏิบัติ ดังนี้ 1.เมื่อประชาชนเห็นสัญญาณไฟ และได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนก็มักจะตกใจและทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นก่อนอื่นผู้ขับขี่ควรตั้งสติ 2.พยายามมองกระจกหลัง เพื่อกะระยะของรถพยาบาลที่วิ่งมา 3.เมื่อพิจารณาปริมาณรถทั้งซ้ายและขวาที่อยู่ใกล้ แล้วพบว่าไม่มีอันตรายและเราสามารถเบี่ยงชิดซ้ายได้ ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วรถและเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางให้รถพยาบาลทันที


4.หากไม่สามารถหลีกทางได้ เพราะสภาพรถที่หนาแน่นและมีอันตรายก็ให้หยุดชะลอรถให้นิ่งเพื่อให้รถพยาบาลฉุกเฉินหาทางวิ่งผ่านเราไปให้ได้ 5.เมื่อรถพยาบาลฉุกเฉินวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามเด็ดขาด 6.กรณีรถติดและรถพยาบาลฉุกเฉินอยู่ด้านหลังพอดี ให้พิจารณาว่าควรชิดซ้ายหรือชิดขวาดี ถ้าไม่มีใครหลีกทางให้ให้ผู้ขับขี่เลือกว่า จะหลบทางไหนและเปิดไฟเลี้ยว เพื่อให้สัญญาณให้รถพยาบาลฉุกเฉิน ได้แซงผ่านไปได้สะดวก


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ