แนะวัยเกษียณ สร้างสุขภาพกาย-ใจ
ผลสำรวจพบ ประชากรผู้สูงอายุในไทยพุ่งสูงขึ้นทุกปี เผยกำหนด ให้ 1 ต.ค. เป็นวันผู้สูงอายุสากล แนะผู้สูงวัยตระหนักรู้คุณค่าในตัวเอง
แฟ้มภาพ
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี เป็น "วันผู้สูงอายุสากล"(International Day of Older Persons) โดยกำหนดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 2534 เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของผู้สูงอายุ ที่ได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้กับสังคมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลายประเทศได้ตอบรับและตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงอายุกำหนดให้มีวันสูงอายุแห่งชาติขึ้นในประเทศของตน สำหรับประเทศไทย ได้กำหนดให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันสงกรานต์ และวันปีใหม่ของไทย เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ทั้งนี้ ปัจจุบัน ประชากร "วัยสูงอายุ" เพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี
นพ.เจษฎากล่าวว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ประเทศไทยมีจำนวนและสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัด โดยปี 2545 มีผู้สูงอายุ คิดเป็นร้อยละ 9.4 ของประชากรทั้งประเทศ ปี 2550 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.7 ปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.2 หรืออาจกล่าวได้ว่า
ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียนที่เข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย (Aging Society) คือ มีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เกินกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด นอกจากวันที่ 1 ตุลาคม จะเป็นวันผู้สูงอายุสากลแล้ว ยังเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่สร้างสรรค์ของผู้เกษียณอายุอีกด้วย ถึงแม้ว่าสมองของผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไปจะมีความเสื่อมในด้านจำนวนเซลสมอง สารสื่อประสาทหรือหลอดเลือดสมองที่เสื่อมลง ทำให้การเรียนรู้สิ่งใหม่ ความคิด ความจำอาจลดลง แต่สมองในส่วนการสร้างสรรค์ของผู้สูงอายุยังคงทำงานได้อย่างดี จนเข้าวัยปีที่ 90
นพ.เจษฎาได้แนะว่า การอยู่อย่างมีความสุขในวัยเกษียณ ทำได้โดย สร้างคุณค่าให้ตัวเอง (building self-esteem) ทำในสิ่งดีๆ ให้กับตนเองและผู้อื่น ช่วยผู้อื่นและสังคมตามที่ทำได้ มีเป้าหมายชีวิต ไม่เปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น ทำความสำเร็จเล็กๆในแต่ละวัน และมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ นั้นเสมอ อย่างที่สอง คือ สร้างสุขภาพกายและสุขภาพใจให้ตนเอง (Building better health and good mental health) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การตรวจสุขภาพ การฝึกจิต ฝึกสมาธิ ทำจิตใจให้สดใส ซึ่งกายดี ใจดี สร้างได้
ที่มา: มติชนออนไลน์