แนะผู้ป่วยโรคNCDs หมั่นดูแลช่องปาก

/data/content/25071/cms/e_degorstwz359.jpg


          กรมอนามัย เผย "โรคในช่องปาก" ปัจจัยเสี่ยงร่วมกับ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง" เร่งควบคุมป้องกัน โดยจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพในช่องปาก ในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เดินหน้าปรับคู่มือพัฒนาระบบบริการและระบบสนับสนุนอย่างเหมาะสม


          ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดบริการส่งเสริม ป้องกันโรคในช่องปากในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” ว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นปัญหาที่สหประชาชาติให้ความสำคัญมาตั้งแต่ปี 2554 เนื่องจากพบอัตราการเสียชีวิตในประชากรโลกสูงถึงร้อยละ 60 ที่น่าห่วงคือสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการติดเชื้อในช่องปาก เนื่องจากช่องปากของคนเรามีเชื้อโรค และจุลินทรีย์อยู่มากมาย เมื่อเป็นโรคในช่องปาก เหงือกเป็นหนอง ก็นำไปสู่การติดเชื้ออวัยวะสำคัญของร่างกายทั้งทางตรงและทางอ้อม จนเสียชีวิตด้วยปอดอักเสบจากการสำลัก และการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุในที่สุด ปัจจัยเสี่ยงนี้มาจากความชุกของโรคในช่องปาก อันเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การบริโภคอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม มากเกินไป


          ทพ.สุธา กล่าวว่า กรมอนามัยจึงลดปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ด้วยการกำหนดให้มีการตรวจสุขภาพช่องปากในผู้ป่วยกลุ่มโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพื่อสนับสนุนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพในช่องปากและการป้องกันปัจจัยเสี่ยง ร่วมด้วยมาตรการต่างๆ คือ ออกกกำลังกาย การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การทำอารมณ์ให้แจ่มใส ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละครั้ง ร่วมกับการดูแลอนามัยช่องปากอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนารูปแบบการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพช่องปากในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สอดคล้องกับผลการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิตสูงด้วย


          “ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถดูแลสุขภาพฟันของตนเองได้ โดยใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์แปรงฟันเป็นประจำอย่างถูกวิธี พบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละครั้งเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ดื่มนมจืด รับประทานผักผลไม้ และหลีกเลี่ยงขนมหวานและน้ำอัดลม” ทพ.สุธา กล่าว


 


 


          ที่มา : เว็บไซต์ ASTV  ผู้จัดการออนไลน์


           ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code