แนะความเร็วเขตเมือง 40 กม.
ชี้คนไทยตายอุบัติเหตุลดลง23%
นายศาสตราวุฒิ พลบูรณ์ นักวิจัยจากศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถิติอุบัติเหตุผู้เสียชีวิตทั่วประเทศของไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยแต่เดิมจากปี 2548 เสียชีวิตต่อปีราว 13,000 คน ปัจจุบันอยู่ที่ 10,000 คน ลดลงราว 23% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลายหน่วยงานรณรงค์ต่อเนื่องและปรับปรุงระบบถนนเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยมากขึ้น โดย 100% อุบัติเหตุ 80% เกิดจากพฤติกรรมผู้ขับขี่ทั้งความประมาท ขาดสติ เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว อีก 20% เกิดจากสภาพถนนและสภาพรถที่ไม่พร้อม ดังนั้นต้องแก้ไขและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับขี่เป็นส่วนสำคัญ ประกอบกับภาครัฐต้องให้ความสำคัญในการรักษาชีวิตประชาชน แม้ผู้ขับขี่จะผิดพลาดที่ไม่รักษาวินัยจราจรหรือมีความประมาทขาดสติ แต่ก็ไม่ต้องมีโทษถึงกับการเสียชีวิต ดังนั้นการหาแนวทางหรือมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้ทางเพิ่มเติมภาครัฐต้องตระหนัก ล่าสุดศูนย์ฯ ได้แนะนำให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. เร่งติดตั้งอุปกรณ์ลดแรงกระแทกของรถบริเวณจุดก้างปลาทางแยกป้องกันไม่ให้รถตกทางด่วนจนมีผู้เสียชีวิต
นายศาสตราวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนถนนพื้นราบมีปัญหารถเฉี่ยวหรือพุ่งชนข้างทางทั้งตู้โทรศัพท์เสาไฟฟ้า บ้านเรือนริมทางเท้าและต้นไม้ ต้องออกแบบสภาพทางเท้าและถนนระหว่างคนเดินกับผู้ขับขี่ให้สมดุลกัน แต่มีปัญหาเมื่อกฎหมายให้ขับขี่ในเมือง 80 กม.ต่อชม. เมื่อรถใช้ความเร็วสูงขณะที่ออกแบบให้ทางเดินเท้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนเดินและความสวยงามจึงเกิดเฉี่ยวชน ดังนั้นขอเสนอให้แก้ไขทั้งระบบ โดยให้ตำรวจจำกัดความเร็วเขตเมืองไม่เกิน 40 กม./ชม.เหมือนต่างประเทศทั่วโลก ส่วนถนนรอบนอกเขตเมืองใช้ความเร็ว 80-120 กม./ชม. จะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
update : 03-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร