แนวทางดูแล “หญิงตั้งครรภ์” ที่ป่วยไข้หวัด 2009

 แนวทางดูแล “หญิงตั้งครรภ์” ที่ป่วยไข้หวัด 2009

 

           การป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ทำให้หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบการหายใจและไหลเวียน เพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่าของคนปกติแม้จะเป็นคนแข็งแรงดีมาก่อน ภาวะแทรกซ้อนต่อทารกในครรภ์จากการป่วยรุนแรงและมีไข้สูงอาจจะเกิดขึ้นได้ จึงได้แนะนำแนวทางการดูแลรักษาและป้องกันไข้หวัดใหญ่ดังนี้

 

  การป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่

 

           ให้ปฏิบัติตามวิธีการป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่แนะนำแก่คนทั่วไปอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัยหากต้องเข้าไปในสถานที่หรือห้องประชุมที่มีผู้คนจำนวนมาก

 

           หลีกเลี่ยงการดูแลสมาชิกในครอบครัวที่ป่วยไข้หวัดใหญ่ และให้อยู่ห้องแยกกัน

 

           หลีกเลี่ยงการใช้มือแคะจมูก ขยี้ตา โดยที่ยังไม่ล้างมือหลังจับสิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น

 

           นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

 

           การตรวจขณะฝากครรภ์ ควรใช้เวลาเท่าที่จำเป็น ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งแพทย์และหญิงตั้งครรภ์ หากจัดเป็นสถานที่ฝากครรภ์ที่แยกจากการตรวจอื่นๆ จะช่วยลดการติดเชื้อได้

 

           การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของวัคซีนนั้นต่อหญิงตั้งครรภ์และทารกหากจะฉีด แนะนำให้ฉีดหลังตั้งครรภ์ 3 เดือนขึ้นไป

 

 

  การดูแลรักษาตนเองเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่

 

           ให้ดูแลรักษาตนเองที่บ้านได้ หากรู้สึกว่าป่วยเล็กน้อย และตอบสนองดีต่อยาลดไข้ พาราเซตามอล

 

           หากมีอาการรุนแรงคงเดิมหรือเพิ่มขึ้นหลังป่วยได้ 2 วัน หรือเริ่มรู้สึกว่ามีอาการรุนแรงผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อพิจารณารับยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่

 

           หากมีไข้สูง หนาวสั่น หรือวัดได้อุณหภูมิเกิน 38.5 องศาเซลเซียส ให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของไข้และพิจารณาการให้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่หากมีอาการหรือลักษณะคลินิกเข้าได้กับไข้หวัดใหญ่

 

 

  การใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่

 

           เนื่องจากยังไม่ทราบผลข้างเคียงของยาขนานนี้ต่อทารกในครรภ์แน่ชัด แต่คาดว่ามีผลน้อย และในหญิงตั้งครรภ์ที่ยังป่วยรุนแรงพอสมควรหลังป่วยได้ 2 วัน การใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ในกรณีนี้จะลดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อมารดาและทารกในครรภ์ได้การให้ยาในกรณีนี้จึงเหมาะสม

 

           หากหญิงตั้งครรภ์ป่วยด้วยอาการที่สงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่ว่ารุนแรงระดับใดและกำลังอยู่ในระยะคลอดบุตร แนะนำให้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ทันที

 

           หากหญิงตั้งครรภ์ไม่อยู่ในระยะคลอดบุตร ให้พิจารณาการให้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามความรุนแรงของโรคเช่นเดียวกับข้อแนะนำที่ใช้กับกลุ่มเสี่ยงทั่วไป หรือจากอาการไข้หนาวสั่น หรือความรุนแรงของโรคที่ไม่ทุเลาเลยใน 2 วัน ทั้งนี้ ให้รีบปรึกษาแพทย์หากคิดว่า ต้องใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่

 

           ใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่เพียงขนานเดียว

 

           ยา oseltamivir เป็นยาที่แนะนำให้ใช้ก่อนและรับประทานครั้งละ 75 มก. วันละ 2 ครั้ง นาน 5 วัน

 

           อาจจะใช้ยา zanamivir ได้ หากสงสัยในกรณีที่ติดเชื้อดื้อยาหรือผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานยาหรือใช้ยาชนิดรับประทานไม่ได้ ให้สูดยาผ่านทางปากเข้าหลอดลมครั้งละ 10 มก. (สูดครั้งละ 5 มก.ติดต่อกันสองครั้ง รวมเป็น 10 มก.) วันละ 2 ครั้งนาน 5 วัน

 

 

  การให้นมลูกหลังคลอดหากมารดากำลังป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่

 

           ให้บีบนมแม่แยกใส่ขวด และให้ผู้อื่นป้อนขวดนมแทนก่อนจนกว่าหายจากไข้แล้ว 24 ชั่วโมง

 

           หากทำไม่ได้และต้องให้นมเอง ต้องทำความสะอาดหัวนมและมือก่อนป้อนนมลูก พร้อมสวมหน้ากากอนามัยการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคหลังสัมผัสผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่

 

           ไม่แนะนำให้รับประทานยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไม่ว่าในกรณีใดๆ หากยังไม่ป่วยหรือไม่มีไข้

 

           หากสัมผัสผู้ป่วยและคิดว่าติดเชื้อ แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และนอนในห้องแยกที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ชุมชนอย่างน้อย 7 วัน หากไม่เป็นไข้ภายใน 7 วัน ให้ปฏิบัติตนตามปกติ

 

           เมื่อมีไข้ภายใน 7 วันหลังการสัมผัสผู้ป่วย ให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำตามแนวทางการดูแลรักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยหรือสงสัยว่า ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่

 

 

 

 

โดย: สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย

        ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย

        ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย

 

 

ที่มา: สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

 

 

Update 13-08-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

 

 

อ่านเนื้อหาทั้งหมดในคอลัมน์คลิกทีนี่

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code