แถลงการณ์เตือนอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า แนะรัฐบาลแสดงจุดยืนไม่ยอมให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย

ที่มา :   องค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย 


แถลงการณ์เตือนอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า แนะรัฐบาลแสดงจุดยืนไม่ยอมให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย thaihealth


องค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เตือนอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า แนะรัฐบาลแสดงจุดยืนไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า ขจัดการแทรกแซงนโยบายของอุตสาหกรรมยาสูบให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ยันเป็นอันตรายต่อเยาวชน


วันที่ 19 พฤศจิกายน ผศ.ทพ.ดร.นฤมนัส คอวนิช  ประธานองค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (อ.บ.ท.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่มากกว่าปีละ 8 ล้านคนทั่วโลก โดยอุตสาหกรรมยาสูบมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ ๆ เพื่อจูงใจให้เด็ก เยาวชน และนักสูบหน้าใหม่เสพติดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ บราซิล และไทย มีนโยบายห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แต่พบว่ามีความพยายามของบริษัทยาสูบข้ามชาติสร้างกระแสผลักดันกฎหมาย ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกต้อง โดยบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่จูงใจให้คนหันมาสูบและเสพติดบุหรี่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และสุดท้ายกลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุข 


แถลงการณ์เตือนอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า แนะรัฐบาลแสดงจุดยืนไม่ยอมให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย thaihealth


“ขณะนี้ไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป โดยพบว่า บุหรี่ไฟฟ้า มีสารนิโคตินจากใบยาสูบและสารเคมีที่เป็นอันตรายสูงกว่าบุหรี่ทั่วไป ในฐานะวิชาชีพทันตแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีพสุขภาพตระหนักดีว่า ภัยคุกคามจากบุหรี่ไฟฟ้ามีมาก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงสุขภาพช่องปาก ที่เพิ่มความรุนแรงของฟันผุ ลดความต้านทานของเนื้อเยื่อในช่องปาก กระตุ้นให้เกิดการอักเสบและโรคปริทันต์ง่ายขึ้น ทำให้สุขอนามัยในช่องปากเสื่อมโทรมลง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ใช้ยาสูบอายุน้อยมีแนวโน้มใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น” ผศ.ทพ.ดร.นฤมนัส กล่าว 


ผศ.ทพ.ดร. นฤมนัส กล่าวต่อว่า องค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (อ.บ.ท.ท.) เป็นตัวแทนของคณะทันตแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน จึงได้ออกแถลงการณ์และแสดงจุดยืนสนับสนุนให้รัฐบาลคงนโยบายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ทำให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย อีกทั้งประเทศไทย ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมการบริโภคยาสูบขององค์กรอนามัยโลก (FCTC) ซึ่งรัฐบาลต้องป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงนโยบายจากอุตสาหกรรมยาสูบ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นการที่ผู้สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าได้มีความพยายามที่จะเสนอแก้กฎหมายเพื่อให้สามารถนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าได้ จึงเป็นการขัดต่อพันธะกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีต่อองค์กรอนามัยโลกอย่างชัดเจน 


“รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินนโยบายเพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนไทยและอนาคตของเยาวชนไทยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า โดยขอขอบคุณท่านสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขไม่มีนโยบายทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนและอนาคตของเยาวชนไทยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่ง อ.บ.ท.ท. จะมุ่งมั่นทำงานเชิงรุกโดยการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าแก่ทันตบุคลากรต่อไป” ผศ.ทพ.ดร. นฤมนัส กล่าว


ทั้งนี้ องค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (อ.บ.ท.ท.) ประกอบด้วย คณะทัตแพทยศาสตร์ จาก 16 มหาวิทยาลัย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยของแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และมหาวิทยาลัยเนชั่น

Shares:
QR Code :
QR Code