แข่งเรือปลอดเหล้า จ.น่าน สนุกได้โดยไม่พึ่งแอลกอฮอล์
ประเพณีการแข่งเรือของชาวจังหวัดน่าน มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว สร้างความภาคภูมิใจให้กับประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญประเพณีการแข่งเรือนี้ได้สร้างเสริมให้ชุมชนมีความสามัคคี เข้มแข็ง รักแผ่นดินถิ่นเกิด ฝีพายได้ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ฝึกวินัย ช่วยเหลือเกื้อกูล และเอื้ออาทรต่อกัน ในอดีต งานแข่งเรือดีๆ กลับถูกทำลายลงด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ร่วมงาน
หลายปีมาแล้ว ที่ภาคีได้รวมพลังกันสร้างสุขภาพ “แข่งเรือปลอดเหล้า” โดยมีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพคนน่าน เครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน มูลนิธิฮักเมืองน่าน เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ต่างมีมติร่วมกันรณรงค์ดังเช่นทุก ๆ ปี ประเพณณี“แข่งเรือชิงถ้วยพระราชทาน ปลอดเหล้า เบียร์ประจำปี พ.ศ.2555” ที่จังหวัดน่านจัดขึ้น ณ ลำน้ำน่าน เชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ อ.เมือง จ.น่าน โดยภายในงานจะไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่ดีของชาวน่าน และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชุมชนอื่นๆ ได้ว่า การจัดงานให้สนุกได้โดยไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ได้สนับสนุนให้มีการจัดงานประเพณีแข่งเรือปลอดเหล้าที่ไม่มีการดื่มการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาโดยตลอด ซึ่งจังหวัดน่านเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สามารถทำให้การแข่งเรือปลอดเหล้าเป็นแบบอย่างดี จะเห็นได้ว่าภายในบริเวณงาน ไม่มีการวางจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีการโฆษณาของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่มีการนำเข้ามาดื่มในบริเวณงาน ซึ่งสามารถลดปัญหาความรุนแรง อุบัติเหตุ เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นการแข่งเรือปลอดเหล้า จึงถือเป็นประเพณีที่ไม่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ไทยของ สสส.ที่ต้องการให้คนมีสุขภาพดี
“การทำงานของเครือข่ายร่วม กับ สสส.ครั้งนี้ เพื่อต้องการส่งเสริมประเพณีที่เชื่อมโยงกับการสร้างสุขภาพ ก่อให้เกิดสุขภาวะอย่างยั่งยืน ซึ่ง สสส.ได้เริ่มโครงการรณรงค์แข่งเรือปลอดเหล้ามาตั้งแต่ปี 2548 โดยการสนับสนุนให้ฝีพายเรือ กองเชียร์ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันรณรงค์สร้างสุขภาพ สืบสานประเพณีแข่งเรือ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสิ่งที่ทำลายสุขภาพ” ดร.สุปรีดา กล่าว
ร.ต.อ.ประทีป ต้องแก้ว รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน จังหวัดน่าน กล่าวว่า ถือเป็นความร่วมมือที่ดีจากทุกภาคส่วน ดังนั้นจึงอยากให้มีการจัดงานประเพณีแข่งเรือปลอดเหล้าทุกปีและทุกจังหวัด เพราะพิสูจน์ให้เห็นว่าการจัดงานปลอดเหล้าสามารถลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และไม่มีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นให้เห็น ซึ่งแตกต่างจากงานที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตำรวจจะทำงานยากและต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากไว้คอยควบคุมสถานการณ์ แต่ในงานแข่งเรือปลอดเหล้านี้ แทบจะไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจผู้ปฏิบัติงานก็สามารถทำได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน นายวิรัช ศรีธิ ฝีพายมือ 1 ที่เข้าร่วมการแข่งขันประเพณีแข่งเรือปลอดเหล้าครั้งนี้ กล่าวว่า ก่อนการแข่งขันจะมีการเตรียมตัวประมาณ 4 เดือน ซึ่งตนและทีมฝีพายประมาณ 50 คน จะไปเก็บตัวเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม ให้เกิดความแข็งแรง และที่สำคัญจะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดการฝึกซ้อม 4 เดือนโดยเด็ดขาด และทางลูกเรือเราทุกคนพร้อมใจใส่เสื้อรณรงค์แข่งเรือปลอดเหล้า แทนการใส่เสื้อของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเราต้องการแสดงออกว่าประเพณีแข่งเรือนี้ต้องปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยแท้จริง ไม่จำเป็นต้องพึ่งงบสนับสนุนจากบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางจังหวัดเราสามารถจัดงานกันเองได้
“ทุกปีเราจะไม่มีการดื่มเหล้าในงาน ซึ่งเป็นกติการ่วมกันและชาวจังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียงที่มาร่วมงานต่างยอมรับได้ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับในอดีตจะคนละเรื่อกันเลย เพราะร้านเหล้ามีตลอด 2 ข้างทาง มีการตั้งวงจนดึกดื่น และเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันขึ้นเป็นประจำ บางรายถูกลูกหลงต้องเข้าโรงพยาบาล มีปัญหาเกิดขึ้นทำให้งานกร่อย งานไม่สนุก” นายวิรัช กล่าว
การแข่งเรือปลอดเหล้าของชาวจังหวัดน่าน สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของท้องถิ่นและชุมชน ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ สืบสานประเพณีการแข่งเรือ ให้เป็นกีฬาที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของประชาชน และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชุมชนต่างๆ ว่า การแข่งเรือที่ดีและสนุกต้องไม่ถูกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้่านเมือง