เอดส์เพิ่มขึ้น เตือนใจวัยรุ่นใช้ชีวิตมีสติ

 

สาธารณสุขจังหวัดเลย เผยมีผู้ป่วยเอดส์เพิ่มขึ้น พบมากในช่วงอายุ 25-39 ปี ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ แนะวัยรุ่นควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ

นายแพทย์วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ข้อมูลจากงานควบคุมโรคเอดส์และกามโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย ได้รับรายงานผู้ป่วยเอดส์ จากสถานบริการสาธารณสุขภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 รวมทั้งสิ้น 377,265 ราย และมีผู้เสีย ชีวิต 97,244 ราย จังหวัดเลย มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคน ปี 2553 เป็นอันดับ 4 และปี 2554 เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

โดยจังหวัดเลยจากรายงานข้อมูลจากหลักประกันสุขภาพ ถึงวันที่ 11 มกราคม 2556 มีอัตราป่วยสะสมต่อประชากรแสนคนเท่ากับ 587.30  ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ยังไม่ป่วยเป็นเอดส์ และผู้ติดเชื้อที่มีอาการ จำนวน 912 ราย มีชีวิตอยู่ 737 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 25-39 ปี อาชีพที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ เกษตรกรรม รองลงมาคือรับจ้างทั่วไป ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อที่พบมากที่สุดคือ เพศสัมพันธ์

ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรัก ตามวัฒนธรรมตะวันตก วัยรุ่นส่วนใหญ่รับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาอย่างไม่ยั้งคิด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร (วัยอันควร หมายถึง ผู้ที่จบการศึกษา มีงานทำ, อายุอยู่ในวัยบรรลุนิติภาวะแล้ว) ความสัมพันธ์ ทางเพศไม่ว่าจะเกิดจากความพร้อมใจ ความมึนเมา การข่มขืน เป็นการเสี่ยงมากที่สุดที่จะเกิดผลร้ายตามมา  เช่น การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน เริม เชื้อรา โดยเฉพาะโรคเอดส์  อันตรายต่อสุขภาพและเสียชีวิตได้ การเสี่ยงต่อความตายจะไม่เกิดถ้ารู้จักยับยั้งชั่งใจ การลดความรู้สึกทางเพศมีหลายวิธี เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ท่องเที่ยว เล่นดนตรี กีฬา การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า หากจำเป็นที่จะมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่ใช่ สามี-ภรรยา ของตนเอง ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง และต้องใช้ให้ถูกวิธี ถุงยางอนามัยจะช่วยได้ถึงสองต่อ คือ ป้องกันโรค และป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ หากมีปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์สามารถขอคำปรึกษาได้ที่สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code