“เหล้า” ตัวปัญหาท้อง แท้ง ทิ้ง

ก่อพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย

 

 “เหล้า” ตัวปัญหาท้อง แท้ง ทิ้ง

 

          ช่วงเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีข่าวใดโด่งดังเท่าข่าวพบซากเด็กทารก 2,002 ศพ ซุกซ่อนอยู่ในวัดแห่งหนึ่งเป็นศพทารกที่ตายจากการทำแท้ง ไม่ใช่ดังแค่เมืองไทยแต่ดังไปทั่วโลก น่าสังเวชสลดหดหู่หัวใจที่สุด

 

          เกิดที่ไหนก็ไม่ว่าเหตุการณ์ผิดศีลผิดธรรม ปฏิเสธไม่ได้แม้แต่นิดเดียวว่านี่คือความชั่ว ความชั่วที่เกิดขึ้นจากจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตของคนและเชื่อเหลือเกินผู้กระทำนั้นน่าจะร้อยทั้งร้อยนับถือพระพุทธศาสนา แล้วผู้กระทำผิดจำนวนหนึ่งนึกถึงสถานที่ปกปิดชั่วตัวเองไม่ได้ไม่รู้ว่าจะใช้ที่ไหน ที่สุดก็นึกถึงวัดเป็นที่อาศัยปกปิดชั่วที่เกิดจากความใจดำอำมหิต

 

          เรื่องนี้ใหญ่โตมโหฬารมาก เพราะเป็นเรื่องของจิตสำนึก ตัวที่จะชี้นำให้ผู้คนกระทำการอันเลวร้ายหรือดีงามที่รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตระหนักสำนึกว่าจะหาทางแก้ไขเยียวยายังไง

 

          เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ที่เห็นความสำคัญด้วยตระหนักถึงความห่วงใยสังคมไทยที่อาจจะต้องถลำสู่ความเลวร้ายลึกไปเรื่อยๆ ในทุกเรื่องทุกทางที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มเครือข่าย เป็นองค์กรรณรงค์ให้ทุกภาค ส่วนโดยเฉพาะประชาชนเกิดสำนึกหรือเกิดสติยับยั้งชั่งใจไม่ทำสิ่งที่ผิดที่ชั่ว เฉพาะเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นนี้ด้วยความห่วงใยจึงได้ร่วมกันจัดเสวนา “เยาวชนกับปัญหา ท้อง แท้ง ทิ้ง” โดย กลุ่มเครือข่ายและหน่วยงานดังกล่าวประกอบด้วยมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก มูลนิธิเพื่อนหญิง มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า

 

          หนึ่งในผู้เข้าร่วมเสวนา คือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นเยาวชนที่เคยมีประสบการณ์ตั้งครรภ์ในช่วงวัยเรียนแต่ตัดสินใจไม่ทำแท้งได้เล่าถึงประสบการณ์ว่า ตนผิดพลาดจากการคุมกำเนิดจนเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา และทันทีที่รู้ก็รู้สึกสับสน แต่ก็ไม่ได้คิดจะเอาเด็กออกหรือทำแท้ง กลับวางแผนเองว่าหลังจากนี้จะใช้ชีวิต

 

          และทำอะไรต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียนจนกระทั่งเปิดเทอมตนก็ยังมาเรียนตามปกติโดยขณะนั้นท้องยังไม่โตมาก และเวลาผ่านไปท้องโตขึ้นโตขึ้น เพื่อนจึงถามว่าท้องใช่หรือไม่ ตนก็ยอมรับตรงๆ ว่าตั้งท้องจริง เพื่อนก็ให้กำลังใจและแนะนำว่าอย่าไปทำแท้ง ทำให้รู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว ซึ่งถือว่าเพื่อนที่ดีมีส่วนในการตัดสินใจของเราอย่างมาก

 

          “เรื่องนี้อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยก็ทราบท่านก็ไม่ได้ซ้ำเติมหรือดุด่าว่าอะไร และยังคอยให้คำปรึกษา แถมยังให้โอกาสหนูมาเรียนหนังสือตามปกติและมีสิทธิ์สอบ และในส่วนของเพื่อนๆก็ช่วยในเรื่องของการเรียนในส่วนที่หนูขาดเรียนไปหนูโชคดีด้วยที่ไม่มีใครแนะนำให้หนูไปทำแท้งซึ่งตรงกับความคิดของหนู”

 

          นอกจากนี้ สำหรับตนแล้วถือว่านั่นเป็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างหนึ่งที่เราต้องมีความรับผิดชอบต่อผลที่เรากระทำลงไป ดังนั้นจึงไม่ควรลืมอีกชีวิต สังคมควรจะให้ความสำคัญกับการหาสถานที่ทำแท้ง หรือป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างยิ่งคือ การให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สื่อลามกโดยเฉพาะแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นตัวทำลายสติอย่างร้ายกาจที่สุด

 

 “เหล้า” ตัวปัญหาท้อง แท้ง ทิ้ง

 

          อีกคนที่เข้าร่วมให้ข้อมูลคือนายบี (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ตัวแทนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า ตนมีแฟนตั้งแต่อายุเพียงแค่ 16 ปี ช่วงนั้นยังเป็นวัยรุ่น มีนิสัยที่เกเร คึกคะนอง ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ จนพลาดทำให้แฟนตั้งครรภ์ เมื่อรู้ก็ตกใจมาก สับสน คิดอะไรไม่ออก จนเพื่อนหลายคนแนะนำให้ไปเอาเด็กออก แต่เมื่อพ่อแม่ของแฟนรู้เรื่อง ท่านก็รู้สึกเสียใจมากและทำใจยอมรับให้เอาเด็กไว้ พร้อมรับปากว่าจะดูแลและช่วยเลี้ยงจนตอนนี้ลูกตนอายุได้ 4 ขวบแล้ว หน้าตาน่ารักมาก ซึ่งหากวันนั้นตัดสินใจทำแท้งก็คงไม่มีโอกาสได้เป็นพ่อคนและได้เห็นหน้าลูก

 

          นายบี กล่าวว่า “อะไรที่ผิดพลาดไปแล้วไม่สามารถกลับมาแก้ไขใหม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าการป้องกันและให้คำปรึกษาจากครอบครัวจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการใช้ชีวิตในวัยรุ่น ทั้งนี้อยากฝากไปถึงวัยรุ่นทุกคนควรมีสติก่อนตัดสินใจทำอะไร” นายบี กล่าว

 

          ด้านเภสัชกรหญิงอรทัย วลีวงศ์ นักวิจัยจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชน เป็นแนวทางหนึ่งในการป้องกันและลดความเสี่ยงของปัญหาการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้  เช่น มาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น หอพักรอบโรงเรียน จำกัดอายุนักดื่ม และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เยาวชน รวมทั้งควบคุมการตลาดที่มุ่งเป้าไปยังเยาวชน ทั้งนี้วัยรุ่นอายุระว่าง 12 – 19 ปี กลายเป็นนักดื่มเพิ่มขึ้นและมีอัตราการดื่มเป็นประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วัยรุ่นผู้หญิงดื่มร้อยละ 24 ขณะที่วัยรุ่นผู้ชายดื่มร้อยละ 40 และวัยรุ่นผู้ชายที่ดื่มส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการดื่มหนักและดื่มจนมึนเมามากกว่าวัยรุ่นหญิง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แอลกอฮอล์จะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์หรือทำให้ ผู้อื่นตั้งครรภ์

 

          ภญ.อรทัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ผลวิจัยยังพบว่าการดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อสมอง ทำให้ขาดสติ ขาดการควบคุมตนเองการยับยั้งชั่งใจ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และหากดื่มเป็นประจำจะทำให้เกิดการกระตุ้นอยากมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และหากดื่มหนักจะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์อีกทั้งการเริ่มต้นดื่มตั้งแต่อายุยังน้อย การดื่มหนัก การดื่มเป็นประจำ ทำให้มีพฤติกรรมการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย นอกจากนี้การที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันมักจะพบในกลุ่มที่เป็นนักดื่มหนักและดื่มแบบมีปัญหา และที่น่าเป็นห่วงคือการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นครั้งแรกมักเกี่ยวเนื่องกับการดื่มแอลกอฮอล์และส่วนใหญ่จะไม่คิดหาวิธีป้องกันเพราะขาดสติไปแล้ว

 

          ปัญหาที่ท้องแท้งทิ้งจนนำไปสู่ข่าวใหญ่ผู้เขียนไม่ต้องสรุป เพราะผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลในการเสวนาบอกชัดเจนทุกคนว่าตัวร้ายตัวทำให้เกิดปัญหาคือ “เหล้า” ด้วยการไปทำลายสติหรือทำให้เสียสตินั่นเอง ถ้าไม่นับหนึ่งในการแก้ปัญหาตรงนี้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

Update : 02-12-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : กิตติภานันทร์ ลีจันทึก

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ