เหนือตอนบนครองแชมป์ ‘ดื่มสุรา’ มากสุด ตะลึง 8 ขวบหัดดื่ม

เหนือตอนบนครองแชมป์ดื่มสุรามากสุดในประเทศ พะเยา แพร่ เชียงราย น่าน รั้งอันดับ 1-4 เครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือเผย “เหล้ามือสอง” ทำเด็ก 8 ขวบเริ่มหัดดื่ม ส่วนพ่อแม่ไร้สำนึกชวนลูกดื่มทำแนวโน้มเด็กติดเหล้าพุ่ง

เหนือตอนบนครองแชมป์ 'ดื่มสุรา' มากสุด ตะลึง 8 ขวบหัดดื่ม

นายธงชัย ช่อประดิษฐ์ ประธานเครือข่ายความร่วมมือแก้ไขปัญหา เหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ จ.ลำพูน เผยถึงสถานการณ์การดื่มสุราในภาคเหนือว่ายังมีแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าในปี 2553 พบว่าประชาชน ในภาคเหนือตอนบนดื่มสุรามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ขณะที่จังหวัดพะเยา แพร่ เชียงราย น่าน ถูกจัดอันดับ 1-4 ของจังหวัดที่มีการดื่มสุรามากที่สุดในประเทศ โดยสาเหตุมาจากทัศนคติและประเพณีปฏิบัติในท้องถิ่น เช่น จังหวัดแพร่แทบทุก หลังคาเรือนจะตั้งสุราต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมบ้าน ส่วนที่จังหวัดเชียงรายเจ้าภาพใน งานต่างๆ จะนำสุรามารับแขก หากปฏิเสธถือว่าไม่ให้เกียรติเจ้าภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายเหล้าเสรียังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนในภาคเหนือติดสุรา โดยพบว่า ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เพียงตำบลเดียวมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสุราถึงปีละ 200 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดเชียงรายจัดเก็บได้เพียงปีละ 40 ล้านบาทเท่านั้น และปัจจุบันแทบทุกบ้านใน ต.สะเอียบ ไม่ต่างจากโรงงานผลิตสุรา

เหนือตอนบนครองแชมป์ 'ดื่มสุรา' มากสุด ตะลึง 8 ขวบหัดดื่ม

นายธงชัย เผยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจของประชาคมงดเหล้าภาคเหนือ พบข้อมูลที่น่าตกใจ โดยในปี 53 พบว่าอายุของผู้ดื่มสุราลดลงเหลือเพียง 8 ขวบ หรือเด็ก ป.2 โดยพบว่าเด็ก 8 ขวบใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เริ่มดื่มสุรา ส่วนที่ จ.เชียงราย พบเริ่มดื่มในช่วงอายุ 11 ขวบ สาเหตุมาจากผู้ใหญ่ที่ให้เด็กลองดื่ม บางคนเชื่อว่าเด็กจะเข็ดขยาดกับรสชาติและไม่กลับมาดื่มอีก ขณะที่บางคนเชื่อว่าโตมาเด็กจะได้คอแข็ง แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เด็กในภาคเหนือดื่มสุรามาจาก “เหล้ามือสอง” ที่ผู้ใหญ่ดื่มไม่หมดและทิ้งไว้ ทำให้เด็กที่อยากรู้อยากลองนำไปดื่ม

อย่างไรก็ตาม จากสภาวะแวดล้อมในปี 54 ทั้งการรณรงค์ของภาครัฐที่มีความเข้มข้น รวมถึงมาตการทางกฏหมายที่ชัดเจนในการจัดระเบียบสังคมและมาตรการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มทำให้อัตราผู้ดื่มสุราชะลอตัวลง และในปีต่อๆ ไปจะเพิ่มจำนวนช้าลงไม่ก้าวกระโดดเหมือนช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา
 

ที่มา: เว็บไซต์เนชั่นแชนแนล

Shares:
QR Code :
QR Code