เส้นทางพนันบอล ตอนจบไม่เคยสวยงาม
ครอบครัวต้องสังเกตบุตรหลาน
กระแสบอลโลกในช่วงนี้ นอกจากจะสร้างสีสันให้คนชอบกีฬาฟุตบอลแล้ว หลายฝ่ายกังวลว่าจะยั่วยุให้ประชาชนเด็กและเยาวชนเข้าสู่วงโคจรของการพนันได้ง่ายขึ้น วิธีสังเกตว่าบุคคลในครอบครัวโดยเฉพาะบุตรหลานจะเข้าไปสู่การพนันหรือไม่
ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.สถาบันรามจิตติเคยฝากข้อสังเกต 10 สัญญาณอันตรายที่ชี้ให้เห็นว่าบุตรหลานอาจติดพนันบอลคือ 1.อดหลับ อดนอน ไม่พลาดแม้แต่คู่เดียวแม้จะดึกแค่ไหน 2.เชียร์ทุกคู่แม้ไม่รู้จัก 3.มีอาการลับ ๆ ล่อ ๆ เวลาคุยโทรศัพท์ ใช้ภาษาแปลก ๆ เช่นลูกครึ่ง ครึ่งควบลูก 4.พบหนังสือพิมพ์กีฬา คัมภีร์แทงบอลติดตัว 5.ไม่ใช้เงินตามปกติไม่กิน เก็บเงินแทงบอล 6.เงินเริ่มขาดมือ ขอยืมทุกคน ทั้งเพื่อนสนิท ไม่สนิท ญาติ พี่น้อง7.ของที่เคยมี มือถือ นาฬิกากล้องถ่ายรูป หายไป และอาจนำของในบ้านไปขายหรือจำนำ8.ซึมเศร้า เครียด เวลาทีมที่เชียร์แพ้แม้จะไม่ใช่ทีมที่ชอบ 9.รวยผิดปกติ ใช้เงินมากกว่าที่เคยมี เช่น เปลี่ยนมือถือใหม่ เลี้ยงเพื่อนฝูง กินเที่ยวไม่ยั้ง 10.ถูกข่มขู่ โดนตามทวงหนี้ มีคนแปลกหน้ามาตามหา
หน่วยงานสำนักงานสนับสนุนกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)มีตัวอย่างบทสัมภาษณ์ของอดีตนักพนันบอลท่านหนึ่งเพื่อไว้เป็นข้อเตือนใจสำหรับใครที่คิดจะเล่นพนันบอลและเล่นอยู่แล้ว ชายหนุ่มอดีตนักพนันบอล(ขอสงวนชื่อ) เล่าถึงเส้นทางการเล่นพนันบอลของตัวเองไว้ว่า เริ่มแทงบอลจากการชักชวนของเพื่อนก็เลยลองเล่นดูตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยเริ่มจากการเล่นทีละน้อย ๆ เริ่มจาก 30-50 บาท มีชนะบ้างแพ้บ้างแต่เมื่อชนะก็ได้เงินเยอะจึงแทงทีละมาก ๆ เมื่อแทงแพ้ก็เสียมาก จึงหวังที่จะเอาเงินที่เสียไปคืน
“ผมจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพนันบอลมากกว่าการเรียน ในแต่ละวันใช้เวลาไปครึ่งค่อนวันกับการหาข้อมูลคู่เด็ด ๆ หลังเลิกเรียนต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อุปกรณ์พนันบอลทั้งโพยบอลหรือหนังสือเกี่ยวกับการทายผลฟุตบอล เพราะกลัวพ่อแม่จะเห็น ในช่วงหลัง ๆ ผมรู้สึกเริ่มมีอารมณ์เครียด ฉุนเฉียวบ่อยและพาลกับครอบครัว เนื่องจากเสียพนันติดหนี้ ไม่นานก็ส่งผลต่อเรื่องอื่นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน และครอบครัว ก็ได้รับผลกระทบและผมยังเคยโดนเจ้ามือขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายเมื่อผมเล่นพนันบอลไปได้สักพักก็รู้สึกผิดลึก ๆอยากเลิกแต่เลิกไม่ได้ เริ่มขัดแย้งในตัวเองเพราะเริ่มรู้ว่ามันไม่ดี”
ขณะที่ส่วนหนึ่งจากปากคำเด็กเดินโพยออกมาเปิดเผยชะตากรรมในวิถีอาชีพของตัวเองไว้ว่า สาเหตุที่ตนได้เข้ามาสู่การเป็นเด็กเดินโพยบอลครั้งแรกเมื่ออายุ 22 ปี เนื่องจากตนเองเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี และกำลังรอเรียนต่อปริญญาโท ในระหว่างที่ตนรอเรียนปริญญาโทอยู่ ก็มีเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันสมัยปริญญาตรีได้มาชวนไปร่วมลงทุนเปิดโต๊ะบอลด้วยความที่เป็นวัยรุ่นในขณะนั้นจึงรับปากและได้ร่วมลงทุนการเปิดโต๊ะบอล หลังจากที่ได้เปิดโต๊ะบอลมาสักระยะหนึ่งตนและเพื่อนก็ได้กำไรจากการกินเปอร์เซ็นต์ของนักพนันบอลด้วยกันทำให้ตอนนั้นชีวิตการเป็นอยู่ของผมเป็นไปในทางที่ดีขึ้น คืออยากได้อะไรก็ซื้อ ไม่ว่าสิ่งของชิ้นนั้นจะมีราคาแพงแค่ไหน
“หลังจากนั้นไม่นานชีวิตผมก็ได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะว่า โต๊ะใหญ่ที่เขารับพนันบอลที่ผมส่งโพยให้นั้น เขาโกงค่าพนันบอล โดยเขาให้เหตุผลกับผมว่า ผมส่งโพยบอลช้าเกินเวลาที่ได้กำหนดไว้ จึงทำให้ผมต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาเงิน จำนวน 5 หมื่นบาทมาจ่ายค่าบอลให้กับลูกค้า ตอนนั้นผมต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อนำเงินทั้งหมดที่ทางบ้านส่งมาให้ผมในแต่ละเดือนไปจ่ายค่าบอลที่โดนโกงไป จนกระทั่งผมทนที่จะอยู่ในสภาพอด ๆ อยาก ๆ ไม่ไหวจึงตัดสินใจโทรฯไปบอกกับแม่ให้ส่งเงินจำนวน 3 หมื่นบาท เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปคืนให้กับลูกค้า”
เหล่านี้คือตัวอย่างของกลุ่มที่เข้าสู่วังวนของการพนัน ที่ตอนจบไม่เคยสวยงามดังกับแชมป์ที่เราเชียร์สุดใจอยู่ขอบสนามสักคน
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Update: 21-06-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ