เสียงใส ๆ สะท้อนงาน EXPO บุหรี่

หวังคนไทยตระหนักให้ความสำคัญต่อสุขภาพ

 เสียงใส ๆ สะท้อนงาน EXPO บุหรี่

          ในการจัดงาน “กีฬาเภสัชสัมพันธ์ ครั้งที่ 22” ที่เหล่านิสิต นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ มาร่วมกันสานสัมพันธ์ด้านกีฬา และนำเสนอประเด็นทางสุขภาพ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์

 

          ประเด็นหนึ่งที่เหล่านักศึกษาต่างร่วมกันแสดงความเห็นเป็นอย่างมาก เห็นจะเป็นหัวข้อ “จุดยืนของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์แห่งประเทศไทยต่อการคัดค้านการจัดงาน TABINFO EXPO 2009″ หรืองานแสดงสินค้ายาสูบครบวงจร ที่จัดขึ้นในเมืองไทย ระหว่าง วันที่ 11-13 พฤศจิกายน

 

          แม้ในวันนี้พวกเขายังเป็นเพียงนิสิต นักศึกษา แต่หวังให้คนไทยตระหนักและให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมหันตภัยจากควันบุหรี่ ที่ส่งผลต่อโรคมะเร็งโรคที่มีอัตราการตายสูงเป็นอันดับต้นของเมืองไทย

 

          “ฉัตรชัย ชาญวิบูลย์ศรี” เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์แห่งประเทศไทย (สนภท.) กล่าวว่า เป็นสิทธิของบริษัทบุหรี่ที่จะจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทยแต่ก็เป็นสิทธิของนักศึกษาเภสัชศาสตร์เช่นกัน ที่จะรวมตัวกันต่อต้านการจัดการในครั้งนี้ ซึ่งในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ทาง สนภท.จะเดินทางไปยื่นหนังสือกันายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยที่ปล่อยให้มีการจัดงานแสดงสินค้ายาสูบแบบครบวงจร และเชื่อว่าเสียงทุกเสียงทุกพลัง จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยก็ทำให้คนในสังคมรู้ถึงพิษภัยและโทษที่แฝงมากับการตลาดของบริษัทบุหรี่

 

          น.ส.อัญมณี สุพมาตร นักศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ปีที่ 4 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า หากรัฐบาลปล่อยให้บริษัทบุหรี่ต่างชาติเข้ามาจัดงานในประเทศไทยนั่นย่อมเท่ากับว่ามีนักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้น แม้จะอ้างว่าการจัดงานในครั้งนี้นำรายได้เข้าประเทศ แต่เมื่อเทียบรายจ่ายที่ใช้รักษาผู้ป่วยจากโรคถุงลมโป่งพอง หลอดเลือดตีบ มะเร็งปอด ก็มากกว่ารายได้ที่ได้รับ ที่สำคัญคนไทยจะป่วยและมีสุขภาพแย่ลงเป็นจำนวนมาก

 

          เช่นเดียวกับ น.ส.ธฤตกมล ลักษณะกุล นักศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มองว่านักศึกษาเภสัชศาสตร์มีหน้าที่ส่งเสริมให้ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าบุหรี่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ และหากวางตัวเฉยเมยปล่อยให้บริษัทบุหรี่เข้ามาทำการตลาดในเมื่องไทบ ก็ถือว่าผิดหลักจรรยาบรรณวิชาชีพ ทั้งนี้เพื่อลดจำนวนคนติดบุหรี่ให้หมดไปจากสังคมไทย ต้องเริ่มทำความเข้าใจในเรื่องพิษภัยของบุหรี่จากครอบครัวก่อน และนักวิชาการ นักการเมือง ผู้ใหญ่ทุกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องควรตื่นตัวและหาวิธีป้องกันให้มากกว่านี้

 

          ทั้งนี้ ภญ.ดร.ปิยะรัตน์ นิ่มสกุลรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ตามกฎหมายแล้วอาชีพของเภสัชกรต้องคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบุหรี่และควบคุมการผลิตยาสูบดังนั้นการ่วมลงชื่อต่อต้นจึงถือเป็นการเฝ้าระวังและเตือนภัยสังคม ซึ่งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ ถือเป็นการทำให้นิสิต นักศึกษารับรู้ข้อมูล กลไกของบริษัทบุหรี่ข้ามชาติมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบ่มเพาะสำนึกแห่งการมีจิตสาธารณะ ทำให้ตระหนักถึงหลักวิชาชีพ อยากช่วยเหลือผู้ป่วย โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนเป็นรูปของตัวเงินด้วย

 

          หลักสามัญสำนึกทางจรรยาบรรณวิชาชีพขอลเยาวชนที่กำลังจะกลายเป็นเภสัชกรในอนาคต อาจไม่ทำให้ผู้จัดงาน TABINFO EXPO ยกเลิกการจัดงานได้ แต่อย่างน้อยเสียงเล็กๆ จากตรงนี้ก็ทำให้เห็นว่า มีคนไทยที่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมและพร้อมจะต่อต้านบริษัทบุหรี่ข้ามชาติที่หวังจะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ในประเทศชาติ

 

          สสส.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ www.thaihealth.or.th สอบถาม 0-2298-0500 ต่อ 1222

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

 

Update: 02-11-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย

Shares:
QR Code :
QR Code