เสียงเล็กๆ จาก ‘คนหัวใจเพชร’
เรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th
เพลงประกอบ : รวม 16 บทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรรเลงโดย ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร
เคยมีผู้กราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ว่า ทรงเคยรู้สึกเบื่อหน่ายในการที่ต้องเสด็จพระราชดำเนินไปที่โน่นที่นี่บ่อย ๆ หรือไม่ และพระองค์ทรงรับสั่งว่า “ประชาชนจ้างฉันมาเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องทำหน้าที่ให้เขาอย่างเต็มที่”
หลายคนที่ได้รับฟังพระราชดำรัส หรือได้เห็นพระกรณียกิจของพระองค์ล้วนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินไทย เช่นเดียวกับ นายวิรัตน์ ยานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหัวใจเพชร จากหมู่ที่ 16 ตำบลเสียว จังหวัดศรีษะเกษ ที่ตั้งใจเลิกเหล้า บุหรี่ เพื่อครอบครัว และหันหน้าทำความดีเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยใจที่มุ่งมั่น
นายวิรัตน์ เล่าให้ฟังว่า ตนดื่มเหล้าตั้งแต่สมัยวัยรุ่น สมัยนั้นในพื้นที่มีการต้มเหล้ากินเอง ทำให้วัฒนธรรมการดื่มเผยแพร่อย่างรวดเร็ว อายุมากขึ้นยิ่งดื่มมากขึ้นจนมีครอบครัวก็ยังคงดื่ม ครอบครัวเคยขอให้เลิก แม้ใจอยากเลิกแต่เลิกไม่ได้ แต่เพื่อลูกจึงพยายาม อีกเหตุผลที่ทำให้เลิกเหล้าได้เด็ดขาดเกิดจากการได้รับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ทำให้อยากเป็นผู้นำที่ดี โดยมีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแรงบันดาลใจ เพราะพระราชกรณียกิจ และพระราชดำรัสของท่านได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศและต่อชีวิตประชาชนชาวไทย ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ ‘ผู้นำ’
“ผู้นำที่ดี ต้องสามารถสร้างแรงจูงใจให้คนในทีมทำงานด้วยความเต็มใจ เต็มประสิทธิภาพ และมีความสุขในการทำงาน จึงจะเป็นการทำงานที่เกิดประสิทธิผลสูงสุด หากเราต้องการผลักดันให้หมู่บ้านห่างไกลจากเหล้า บุหรี่ แต่ผู้นำเองยังคงดื่ม และสูบไม่ต่างจากชาวบ้าน ความสำเร็จก็เกิดขึ้นไม่ได้” นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ เล่าต่อว่า คนในตำบลเสียว จ.ศรีสะเกษ มีประวัติศาสตร์เรื่องการต่อสู้ เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดตั้งกิ่งอำเภอจนยกระดับเป็นอำเภอ การจัดตั้งโรงเรียนมัธยมในตำบล และต่อสู้กับทุนและอำนาจรัฐเพื่อยับยั้งเรื่องสัมปทานป่าชุมชนโนนใหญ่ จนถึงการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงค่านิยมการจัดงานบุญ-ประเพณีปลอดเหล้า ซึ่งทำให้ตำบลเสียวกลายเป็นพื้นที่ที่มีความสามัคคี มีคนทำงานที่เข้มแข็ง และเรี่ยวแรงสำคัญในการขับเคลื่อนงานต่างๆ ในระดับตำบล สามารถยกระดับจนกลายเป็นตำบลต้นแบบ “ชุมชนฅนสู้เหล้า”
ตำบลเสียว ได้นำเอากระบวนการวิจัยชุมชนเข้ามาใช้ในกระบวนการสืบค้นข้อมูลสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยมีการสำรวจข้อมูลปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากทุกร้านค้าในพื้นที่ตำบลเสียวและสำรวจข้อมูลค่าใช้จ่ายในงานศพที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปรียบเทียบกับงานศพปลอดเหล้า และเก็บข้อมูลสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชน โดยกระบวนการในการเก็บข้อมูลมีผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนจากทั้ง 17 หมู่บ้านในตำบลเสียว ร่วมกันออกแบบเครื่องมือ เก็บข้อมูล และนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ต่อร่วมกัน คณะทำงานฯตำบลเสียว ได้ขับเคลื่อนผ่านกระบวนการงดเหล้าครบพรรษา โดยในระดับตำบลได้มีการรณรงค์เชิญชวนคนสมัครใจงดเหล้าครบพรรษา ซึ่งได้มีกระบวนการที่เข้มข้นทั้งในช่วงก่อนพรรษา ระหว่างพรรษาและช่วงออกพรรษา
นายวิรัตน์ เผยอีกว่า ล่าสุดได้มีการประกาศยกระดับการทำงานโดยการประกาศขับเคลื่อน งานออกพรรษา เป็นงานบุญปลอดเหล้า “ออกพรรษา งดเหล้าตลอดปี ชีวีเป็นสุข” ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ลด ละ เลิก อบายมุข ตามรอยพ่อ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเสริมแรงให้ผู้ที่เลิกดื่มมาแล้ว 3 เดือนเลิกดื่มต่อหลังออกพรรษาและเลิกดื่มตลอดชีวิต
“สิ่งที่เราทำเป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีจำนวนมากกว่า 4,000 โครงการทั่วประเทศ แต่เราก็ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำความดีเพื่อแผ่นดิน และไม่เพียงแต่การผลักดันเรื่องเหล้า-บุหรี่เท่านั้น ยังหมายถึงประเด็นอื่นที่มีส่วนทำให้สังคมอยู่ดีมีสุข เป็นเรื่องที่เราเดินหน้าที่จะทำต่อไป” นายวิรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย