เลิกเหล้า 1 วันลดสูญเสีย 540 ล้าน

ผลดีต่อตัวเองและสังคม

 

เลิกเหล้า 1 วันลดสูญเสีย 540 ล้าน

 

           รมช.สาธารณสุขชี้หากเลิกดื่มเหล้า 1 วันจะสามารถลดความสูญเสียให้ประเทศได้วันละกว่า 540 ล้านบาท หากเลิกเหล้าได้ใน 3 เดือนสุขภาพกายและสุขภาพใจแข็งแรงสมบูรณ์ มีเงินเหลือเก็บใช้อย่างพอเพียง ครอบครัวอบอุ่นมีเวลาให้กันมากขึ้น

 

          ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2553 วันเข้าพรรษา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี  เพื่อสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมค่านิยมของคนไทยให้เป็นแบบอย่างที่ดี โดยเฉพาะเยาวชน และเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง มีสติสัมปชัญญะในการครองตน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติตนตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ให้ดำรงชีวิตอยู่ในศีลธรรมอันดีห่างไกลจากสิ่งเสพติดอบายมุขต่าง ๆ ได้

 

          รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญการรณรงค์งดดื่มสุรา โดยกำหนดวันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ เพื่อละเว้นอบายมุขรักษาและส่งเสริมสุขภาพในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา นับเป็นการสร้างแนวร่วมในสังคมที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสำคัญที่จะทำให้คนไทย โดยเฉพาะบุคคลในครอบครัวที่จะลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง ผลจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต และเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตจำนวนมาก มีการคาดประมาณว่าผลกระทบโดยรวมจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทย ก่อให้เกิดความสูญเสียในด้านต่างๆ สูงถึงปีละ 2 แสนล้านบาท

 

          ดังนั้น หากเลิกดื่มเหล้า 1 วันจะสามารถลดความสูญเสียของประเทศลงได้กว่า 540 ล้านบาท ทั้งนี้มีกระทรวงสาธารณสุขมี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

          ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อไปว่า ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2550 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มมึนเมาเกือบ 15 ล้านคนเป็นชายมากกว่าหญิง 6 เท่าตัว โดยมีผู้หญิงดื่ม 2.3 ล้านคน ผู้ที่ดื่มอยู่ในเขตชนบทสูงกว่าเขตเมืองประมาณ 2 เท่าตัว กลุ่มวัยทำงานอายุ 25-59 ปีดื่มมากที่สุด 11.5 ล้านคน รองลงมาคือ วัยรุ่นอายุ 15-24 ปี 2.3 ล้าน คน และผู้สูงอายุดื่ม 1.1 ล้านคน

 

          โดยมีผู้ติดสุราต้องดื่มทุกวันประมาณ 6 แสนคน อนาคตของคนติดเหล้าส่วนใหญ่จะมีผลเสียทั้งสุขภาพและสังคม เช่น บางรายเกิดอุบัติเหตุจนพิการหรือเสียชีวิต หากดื่มแล้วขาดสติจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์และกามโรค เกิดความรุนแรงในครอบครัวและผู้อื่น เป็นโรคต่างๆ ทั้งโรคทางระบบจิตประสาท โรคหัวใจเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ตับแข็ง ตับอักเสบ พิษสุราเรื้อรัง กระเพาะอักเสบ มะเร็งตับ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

 

          ดังนั้นในช่วง 3 เดือนเข้าพรรษานี้ หากสามารถงดเหล้าได้จะมีผลดีทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง ทำให้มี เงินมากขึ้น หากใครที่เคยดื่มมากและอดได้ก็จะประหยัดเงินได้มาก ไม่มีอาการจากสุรา เช่น เมาค้าง ทำให้สมาธิดี สมองแจ่มใส อัตราเสี่ยงต่ออุบัติเหตุลดลง ครอบครัวอบอุ่นเพศสัมพันธ์ดีขึ้น ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และหยุดดื่มเหล้า ลูกจะมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

 

Update: 28-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code