“เลิกบุหรี่บ้านละคน” สร้างสุขภาพดีพี่น้องมุสลิมไทย

การสูบบุหรี่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงทั้งตัวผู้สูบเองและคนรอบข้าง



แฟ้มภาพ


เมื่อเร็วๆ นี้มีการจัดมหกรรมอาหารและวัฒนธรรมมุสลิมไทยครั้งที่6 มีเผยข้อมูลอัตราการสูบบุหรี่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่น่าวิตกห่วงใยมากทีเดียว เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกันการสูบบุหรี่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชูแนวคิด "เลิกบุหรี่บ้านละคน" ช่วยลดผู้สูบรายเก่าและป้องกันผู้สูบรายใหม่ สร้างสุขภาพที่ดีแก่พี่น้องมุสลิม


มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)และแผนงานสร้างสุขมุสลิมไทย ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. ร่วมกันจัดกิจกรรมทุก3ปี ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ศ.นพ.ปิยะสกลสกลสัตยาทรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.)เป็นประธานในพิธีเปิด และนอกจากอาหารพื้นบ้านมุสลิมแล้ว ภายในงานยังมีนวัตกรรมการเลิกบุหรี่ด้วยวิธีต่างๆ และองค์กรที่จะให้คำปรึกษาผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ รวมถึงการนำเสนองานวิจัยสถานการณ์การสูบบุหรี่ ในพื้นที่ 4 จังหวัด และ 4 อำเภอชายแดนใต้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกันการสูบบุหรี่ และสร้างความตระหนักถึงการได้รับผลกระทบที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพจากการ  สูบบุหรี่ทั้งผู้สูบเองและคนรอบข้าง


"ครั้งนี้เราจะเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนทัศนคติการดำรงชีวิตของพี่น้องมุสลิม โดยให้ความสำคัญของการรักษาสุขภาพกันมากขึ้นเฉพาะอย่างยิ่งการสูบบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยร่วมกันรณรงค์ให้ทุกคนเลิกสูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง ภายใต้แนวคิด 'เลิกบุหรี่บ้านละคน' เพราะงานวิจัยเรื่องสถานการณ์การสูบบุหรี่การเลิกบุหรี่ได้สำเร็จและการสัมผัสควันบุหรี่มือสองที่บ้านในพื้นที่4จังหวัด และ4อำเภอชายแดนใต้ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส.พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วครอบครัวมุสลิมจะมีคนสูบบุหรี่บ้านละ1คน" ศ.ดร.อิสรา ศานติศาสตร์ ประธานมูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย เล่าถึงความสำคัญของการจัดงาน


ด้าน ดร.ซอฟียะห์ นิมะ อาจารย์สถาบันการจัดการระบบสุขภาพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยข้อมูลอัตราการสูบบุหรี่ผ่านงานวิจัยเรื่อง "สถานการณ์การสูบบุหรี่ การเลิกบุหรี่ได้สำเร็จและการสัมผัสควันบุหรี่มือสองที่บ้าน ในพื้นที่4จังหวัด และ4 อำเภอ ชายแดนใต้" โดยระบุว่า ได้สำรวจประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ใน4จังหวัดได้แก่ ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาสและสตูล ส่วน 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ, เทพา, สะบ้าย้อยและนาทวี ด้วยการเก็บข้อมูลจำนวน 4,500 ครัวเรือน และกลุ่มตัวอย่างรายบุคคลจำนวน 4,515 คน ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม พ.ศ.2558 โดยพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ในปัจจุบันยังคงสูงถึงร้อยละ27.6เมื่อเทียบกับผลสำรวจในปี2557ที่มีอัตราการสูบร้อยละ25.6 ซึ่งอัตราการเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จพบเพียงร้อยละ5.4 และมีผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองสูงถึงร้อยละ74.5 ซึ่งพบว่ามีการสัมผัสควันบุหรี่ที่บ้านของตนเองทุกวัน ดังนั้นเพื่อให้การคุ้มครองสุขภาพแก่ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่จึงมีความจำเป็นต้องหามาตรการควบคุมยาสูบ เพื่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมปลอดควัน ในขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินการเพื่อลดจำนวนผู้สูบทั้งรายเก่าและรายใหม่ด้วยเช่นกัน


ต้องมาร่วมกันส่งเสริมการเลิกบุหรี่และป้องกันนักสูบรายใหม่ สร้างกำลังใจของผู้ที่อยากเลิกสูบและคนรอบข้างจะเป็นสิ่งที่จะช่วยหนุนให้เลิกบุหรี่ได้สำเร็จมากขึ้น ทำให้ "เลิกบุหรี่ได้บ้านละคน"สุขภาพดีจะกลับมาสู่พี่น้องมุสลิมไทยดังเก่าก่อนแน่นอน


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code