เร่งแก้เด็กไทยชีวิตติดจอสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


เร่งแก้เด็กไทยชีวิตติดจอสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก thaihealth


เด็กเจนแซท (Gen Z) ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและดิจิทัล อุปกรณ์สื่อสารแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน เป็นเสมือนอวัยวะที่ 33 เพราะเป็นเครื่องมือในการเข้าสู่โลกโซเชียลที่ขาดไม่ได้ เด็กติด กับดักกับชีวิตของโลกเสมือนจริง ที่มีแต่ด้านดีๆ จนบางคนไม่อาจยอมรับกับสภาพชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงได้ เช่นนี้ ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก ไม่ใช้ชีวิตติดจอ ติดโซเชียล


ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิธรรมดี ร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคประชาสังคม อาทิ มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด และศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เปิดตัวโครงการ "ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ แคมป์" (THAILAND SUPER CAMP) กิจกรรมค่ายเยาวชนแห่งการพัฒนาตัวเอง ภายใต้โครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมายด์เซ็ตคุณธรรมเด็กไทย 5.0 ด้วยการปรับกระบวนทัศน์ทั้ง 5


เด็กไทยติดจอ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์


เร่งแก้เด็กไทยชีวิตติดจอสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก thaihealth


นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กไทยใช้เวลากับหน้าจอท่องอินเทอร์เน็ต 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่า ค่าเฉลี่ยโลกถึง 3 ชั่วโมง และเมื่อดูพฤติกรรมเด็กเยาวชนในยุคเจนแซท จากสรุปข้อมูลการใช้งานโซเซียลมีเดียของคนไทยใน รอบปี 2017 ของบริษัท โธธ โซเซียล จำกัด พบว่า วัยรุ่นหนีพ่อแม่มาเล่นทวิตเตอร์มากขึ้น สาเหตุมาจากต้องการหนีพ่อแม่ที่คอย ส่องเฟซบุ๊คลูก ติดตามศิลปินดาราที่ชื่นชอบ ทั้งศิลปินไทยและเกาหลี


นอกจากนี้ จากการสำรวจสถานการณ์เด็กไทยกับภัยออนไลน์ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย พบว่า 95% เด็กเยาวชนตระหนักดีว่าอินเทอร์เน็ตมีอันตราย 70% รู้ว่า เพื่อนออนไลน์ไม่พูดความจริง แต่ก็พบว่าเด็กเยาวชนเกือบครึ่ง หรือ 46% เคยถูกแกล้งทางออนไลน์


"เด็กไทยก็เหมือนเด็กทั่วโลก เมื่อเข้าสู่ ยุคเทคโนโลยีก็ทำให้เขาใช้ชีวิตกับสิ่งเหล่านี้ มากขึ้น แม้เขาจะรู้ในอันตราย หรือเด็กเกือบครึ่งเคยถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ เป็นภัยใกล้ตัวมาจากข้อมูลที่ไม่ได้ถูก กลั่นกรอง แต่เขาก็อยู่กับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งสาเหตุที่เด็กติดจอไม่ใช่มาจากตัวเด็กเองทั้งหมด ยังมีปัจจัยสภาพแวดล้อม พ่อแม่ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าสังคมในการติดต่อเพื่อน และ แสดงตัวตน เพราะฉะนั้นถ้าจะปรับพฤติกรรมเด็กก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกส่วน ตั้งแต่พ่อแม่ โรงเรียน ชุมชน รัฐบาล ร่วมกัน สร้างเกราะป้องกันฝึกทักษะการเท่าทันสื่อให้แก่เด็ก โดยดึงส่วนดีของเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์อุดช่องโหว่ให้เด็กไม่หลงลืมตัวตน" นพ.ไพโรจน์ กล่าว


อย่างไรก็ตาม สังคมบนโลกออนไลน์ที่ส่วนใหญ่เลือกจะนำเสนอบางแง่มุมด้านดีของตัวเองหรือจัดฉากเพื่อนำเสนอชีวิตที่ดี เช่น การโพสต์ภาพมื้ออาหารสุดหรู ไปเที่ยว ใช้ของราคาแพง หรือการใช้ แอพพลิเคชั่นแต่งรูปก่อนโพสต์ สิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อนสังคมที่เน้นค่านิยมทางวัตถุและจะส่งผลต่อภาวะซึมเศร้า เมื่อโลกแห่งความเป็นจริงไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้ หรือมีการเปรียบเทียบกับคนอื่นที่นำเสนอชีวิตในโลกออนไลน์ เพื่อให้เด็กห่างไกลจากการติดจอ เป็นที่มาที่ สสส.ร่วมกับเครือข่ายจัดกิจกรรมไทยแลนด์ ซุปเปอร์ แคมป์ นำเด็กเข้าสู่กิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาเพื่อใช้ชีวิตในสังคมนี้ได้


โรคซึมเศร้าจากการติดโซเชียล


เร่งแก้เด็กไทยชีวิตติดจอสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก thaihealth


พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาเด็กติดเกม เด็กติดโซเชียล ที่จิตแพทย์ต้องดูแลมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งช่วงเวลาเรื่องนี้ ส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ ทั้งปัญหาการเรียน พฤติกรรมทางเพศ ทักษะการเข้าสังคมไม่ดี การขัดแย้งในสังคม


ซึ่งผลกระทบจากปัญหาเด็กเกมหรือติดโซเชียลนั้นคล้ายกัน คือการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอนานๆ แต่เด็กติดโซเชียล จะมีปัญหาเรื่องของอารมณ์ ขาดการยอมรับและนับถือตนเอง (Selfesteem) ทำให้เด็กรู้สึกว่าด้อยคุณค่าในตัวเอง เกิดความทุกข์จาก การเปรียบเทียบ ระหว่างชีวิตตนเองและชีวิตเพื่อนในสังคมออนไลน์


ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้าจากโลกเสมือนจริงขึ้นได้ บางคนก็มีภาวะหลงตัวเอง จากการได้รับการตอบสนองเชิงบวกที่ได้จากยอดไลค์ในสื่อโซเชียล ขณะที่เด็กติดเกมนั้นจะมีปัญหาเรื่องของอารมณ์ที่ฉุนเฉียว ก้าวร้าวรุนแรง แต่ปลายทางส่งผลให้เด็กไม่ประสบความสำเร็จทั้งในการศึกษา เจ็บป่วยโรคทางกาย ได้แก่ โรคอ้วน นอนไม่หลับ การเจริญเติบโต ปัญหาทางอารมณ์


แนะพ่อแม่เป็นตัวอย่างให้แก่ลูก


พญ.จิราภรณ์ กล่าวว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องเร่งพัฒนาสมองส่วนหน้า หรือเรียกว่าสมองซีอีโอ ที่ต้องคิดวิเคราะห์ มองเหตุและผล การควบคุมอารมณ์ ความจำ การมีสมาธิที่ดี แต่หากสมองส่วนนี้ไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมก็จะทำเด็กไม่รู้จักอดทน รอคอย ควบคุมตนเองไม่ได้ ขาดวินัย ส่งผลต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เด็กในวัยนี้ จะเน้นทำอะไรตามความสนุกและความสุข ไม่ควรไปคิดว่าเขาจะต้องคิดได้ เองว่าไม่ควรเล่นเกม เล่นโซเชียล


เร่งแก้เด็กไทยชีวิตติดจอสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก thaihealth


ดังนั้นหน้าที่ของพ่อแม่ก็คือต้องเป็นสมองส่วนหน้าให้แก่ลูก ต้องกำหนดกติกาและระยะเวลาในการใช้งาน การพูดคุยทำความเข้าใจแก่ลูกว่าไม่ควรมีอุปกรณ์เหล่านี้ในห้องนอน และหากิจกรรมอื่นๆ มาทดแทนเพื่อลดเวลาการติดหน้าจอ เช่น ให้เขารับผิดชอบงานบ้าน การออกกำลังกาย


ส่วนถ้าเด็กที่เข้าข่ายต่อต้านกับ กติกาที่พ่อแม่กำหนดและมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง แนะนำว่าควรปรึกษา จิตแพทย์เพื่อประเมินรายละเอียดและหาทางช่วยเหลือที่เหมาะสม ซึ่งการพูดคุยคุยกับเด็กที่มีการต่อต้าน ควรเข้าหาในลักษณะของการแสดงความเป็นห่วง และดึงมาพูดคุยเพื่อหา จุดกึ่งกลางที่พอใจร่วมกัน อย่าบังคับว่าต้องทำตามที่พ่อแม่ต้องการ


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพ่อแม่ก็มีภาวะติดโซเชียลหลายครอบครัว ก็ผลักให้ลูกไปสู่สิ่งเหล่านี้เพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลาใช้โซเชียล เพราะฉะนั้นพ่อแม่ เองก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกด้วย ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก


เร่งแก้เด็กไทยชีวิตติดจอสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก thaihealth


ดึงเยาวชนจากหน้าจอช่วงปิดเทอม


"ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ แคมป์" ค่ายเยาวชนภายใต้โครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมายด์เซ็ตคุณธรรมเด็กไทย 5.0 หวังดึงเยาวชนออกจากหน้าจอช่วงปิดเทอม เพื่อสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ให้พร้อมก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างมีคุณภาพ จะจัดอบรมกลุ่มนักเรียนนักศึกษาให้เป็นผู้ดูแลเยาวชนในค่ายพร้อมเรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์กิจกรรมการจัดค่าย "THAILAND SUPER CAMP" เพื่อนำไปขยายผลจัดโครงการ "THAILAND SUPER SCHOOL" ในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน


ซึ่งค่าย "ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ แคมป์" จะจัดขึ้นในรุ่น ป.4-ป.6 วันที่ 8-13 ต.ค.2561 และรุ่น ม.1-ม.3 วันที่ 15-20 ต.ค.2561 ณ ค่ายกรุงเทพวันวาน เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ถึง 15 ก.ย.2561 ทุกกิจกรรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 50 คนเท่านั้น ติดตามรายละเอียด พร้อมดาวน์โหลดใบสมัครที่เฟซบุ๊ค thailand supercamp2018

Shares:
QR Code :
QR Code