เร่งป้องกันภาวะเครียดเฉียบพลันผู้บาดเจ็บเรือล่ม

ที่มา : กรมสุขภาพจิต 


เร่งป้องกัน 'ภาวะเครียดเฉียบพลัน' ผู้บาดเจ็บ จากเหตุเรือล่ม thaihealth


แฟ้มภาพ


กรมสุขภาพจิต เร่งป้องกันภาวะเครียดเฉียบพลันนักท่องเที่ยวและญาติจากเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตอย่างใกล้ชิด  ผลการดูแลผู้บาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัด รวม  9 คน และญาติ จำนวนหนึ่ง พบว่ายังมีอาการเครียด วิตกกังวล  นอนไม่หลับ เศร้า  เหม่อลอย  จัดทีมเยียวยาจิตใจดูแลใกล้ชิด  ฝึกทักษะการคลายเครียดในเบื้องต้นให้  และพร้อมจะประสานทางการจีนดูแลจิตใจต่อเนื่องเมื่อเดินทางกลับประเทศแล้ว   


นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการดูแลด้านจิตใจแก่นักท่องเที่ยวจากเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 กรกฎาคม 2561  ที่ผ่านมา  ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งหมด 105 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ช่วยเหลือได้  49 คน  พบศพแล้ว  42  ศพ  ยังสูญหายอีกจำนวนหนึ่งอยู่ระหว่างการค้นหาว่า  กรมสุขภาพจิตได้จัดส่งทีมเยียวยาจิตใจ ( MCATT) จากโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี  ร่วมกับทีมเยียวยาใจของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและโรงพยาบาลวิชระภูเก็ต   ในการให้การปฐมพยาบาลทางใจแก่ผู้ประสบภัยและญาติที่รอดชีวิต โดยปัญหาที่ต้องเร่งป้องกันขณะนี้คือภาวะความเครียดเฉียบพลัน  ซึ่งเป็นกลไกปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากการสูญเสียหรือการเผชิญเหตุรุนแรง  ต้องได้รับการปฐมพยาบาลทางใจอย่างรวดเร็ว  ลดความเครียดให้เหลือน้อยที่สุด   เพื่อผลในการปรับตัวก้าวผ่านเหตุวิกฤติได้เร็ว   ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบในระยะยาวคือการเกิดบาดแผลทางใจ หรือที่เรียกว่าภาวะพีทีเอสดี ( Post  Traumatic  Stress  Disorder :PTSD)  ซึ่งจะกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมาก


“ผลการเยียวยาจิตใจผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวทั้ง 9 คน  เป็นชาย 4 คน หญิง 5 คน ซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาลวิชระภูเก็ต 3 คน  และอยู่ที่โรงพยาบาลองค์การบริการส่วนจังหวัดภูเก็ต 6 คน  พบว่าทุกคนยังมีอาการหวาดกลัว  เสียใจ  วิตกกังวล  นอนหลับไม่สนิท มีความรู้สึกเหมือนนั่งในเรือ บางคนมีการเศร้า  เหม่อลอย  ร้องไห้ และพบว่าญาติจำนวน 2 คน มีอาการโศกเศร้าเสียใจ เครียดอยู่ระดับสูง ทีมเยียวยาฯได้สอนทักษะการคลายเครียดเบื้องต้น และให้คำแนะนำการดูแลจิตใจตนเองซึ่งจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น  อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งญาติทั้งหมดนี้ ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่  กรมสุขภาพจิตจะดำเนินการประสานส่งต่อกับทางการจีน  ซึ่งมีความร่วมมือกันในด้านการพัฒนาสุขภาพจิตอยู่แล้ว  เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลจิตใจอย่างต่อเนื่องเมื่อเดินทางกลับประเทศไปแล้ว”  อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว


ทางด้านนายแพทย์จุมภฎ  พรมสีดา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า  ในการจัดแผนเยียวยาปฐมพยาบาลใจผู้ประสบภัยจากเหตุเรือล่มครั้งนี้  จะเน้นผู้ได้รับผลกระทบ 4 กลุ่มได้แก่ ญาติผู้เสียชีวิต ผู้ที่สูญเสียทรัพย์สิน  ผู้บาดเจ็บ  และผู้ที่รอดชีวิตหรือเห็นเหตุการณ์  แม้ว่าในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง  โดยเฉพาะการต้องใช้ล่ามเป็นสื่อกลางก็ตาม  ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากจิตอาสาที่มาช่วย ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่จะได้ให้การดูแลอย่างทั่วถึงที่สุด  โดยได้ให้เบอร์โทรของพยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยา เพื่อให้พยาบาลและล่ามจิตอาสาที่ดูแลผู้ป่วย  สามารถโทรปรึกษาอาการของผู้ป่วยและญาติได้ตลอด 24 ชั่วโมง 


นายแพทย์จุมภฎกล่าวต่อไปว่า  สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุวิกฤติ จะมีปฎิกิริยาออกมา 4 ด้าน คือด้านร่างกาย เช่น อาการวิงเวียนศีรษะ ปั่นป่วน หมดกำลัง ด้านพฤติกรรมหรือการแสดงออก เช่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ฝันร้าย  ร้องไห้  หวาดระแวง  แยกตัวเองออกจากสังคม  ด้านอารมณ์ เช่น ไม่ยอมรับในสิ่งที่เห็น วิตกกังวล กลัว   เศร้า ระทมทุกข์ ไร้ความหวัง รอดชีวิตมาแต่รู้สึกผิด และด้านการรับรู้ อาทิ สับสน ความคิดอ่านแย่ลง ภาพความทรงจำผุดมาบ่อยๆ   ซึ่งอาการเหล่านี้จะปรากฏหลังเกิดเหตุ และจะค่อยๆดีขึ้นใน 4 สัปดาห์   ซึ่งการปรับตัวเร็วช้านั้นขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางใจเดิมของแต่ละคนด้วย  

Shares:
QR Code :
QR Code