เรื่องเล่าคนกล้า จิตอาสา "เท่งเสื้อส้ม"

เรื่องโดย เทียนทิพย์  เดียวกี่ Team Content www.thaihealth.or.th


ข้อมูลบางส่วนจาก หนังสือคู่มืออาสาสมัครในสถานการณ์ภัยพิบัติ


ให้สัมภาษณ์โดย  จท.โกเมศร์ ทองบุญชู  ผู้จัดการโรงการพัฒนาระบบและบูรณาการการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชนท้องถิ่น จังหวัดนครศรีธรรมราช 


ภาพโดย นัฐพร ชุ่มลือ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ


เรื่องเล่าคนกล้า จิตอาสา


ท่ามกลางภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก พายุบ้าง น้ำท่วมบ้าง ล่าสุดประเทศไทยเองก็เกิดอุทกภัยในภาคอีสานที่ก่อความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินไม่น้อยเลยทีเดียว


เหตุการณ์ครั้งนี้ เราได้เห็นหลายหน่วยงานจับมือเพื่อช่วยพี่น้องที่กำลังได้รับความลำบาก มีการบริจาคเกิดขึ้นทั้งเงินทองและของใช้ ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มคนที่สำคัญและมีบทบาทในการคอยช่วยเหลือให้ทุกคนปลอดภัยนั่นคือ อาสาสมัคร


“เท่งเสื้อส้ม” กลุ่มอาสาสมัครจากอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช นับเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่เข้มแข็งกลุ่มหนึ่งที่แม้ภัยพิบัติไม่ได้เกิดในบริเวณพื้นที่ภูมิลำเนา แต่ด้วยใจอาสาและกระบวนการทำงานที่เข้มแข็งพวกเขาพร้อมปฏิบัติงานในทุกที่ และทุกเวลา


เรื่องเล่าคนกล้า จิตอาสา


จท.โกเมศร์ ทองบุญชู  ผู้จัดการโครงการพัฒนาระบบและบูรณาการการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชนท้องถิ่น จังหวัดนครศรีธรรมราช  เล่าถึงที่มาของฉายา เท่งเสื้อส้ม ว่า เท่งเสื้อส้ม เป็นคำนิยามที่เรียกทีมอาสาสมัครของเครือข่ายว่าเท่งเสื้อส้ม เท่งสะท้อนว่าอาสาสมัครเป็นชาวบ้าน คุณจะมาจากไหนก็แล้วแต่ ถ้าคุณมาเป็นอาสาสมัครคุณก็คือชาวบ้าน เสื้อส้ม คือเสื้อแห่งนักรบภัยพิบัติ เป็นเสื้อที่สากลใช้ในงานภัยพิบัติ ก็หมายถึงชาวบ้านที่มาเป็นอาสาสมัคร แล้วใช้เสื้อสีส้มเป็นเสื้อประจำตัว เราเลยเรียกว่า เท่งเสื้อส้ม


บทบาทของอาสาสมัคร


งานอาสาสมัคร คือ งานที่เกิดขึ้นโดยสมัครใจของผู้กระทำและและเป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นสำคัญ อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อผู้กระทำโดยไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการค่าตอบแทน โดยอาสาสมัครมีบทบาท ดังนี้


1.เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูสังคมทางกายภาพในทุกมิติของการรับมือกับภัยพิบัติ ด้วยทักษะความสามารถที่หลากหลากหลายและน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือผู้ประสบภัย


2.เป็นผู้ฟื้นฟูทางด้านจิตใจ เป็นตัวประสานความสัมพันธ์ในชุมชน และสร้างความหวังให้กับผู้คนในสังคม


3.มีส่วนช่วยในการเติมเต็มความต้องการ ด้านการช่วยเหลือ


4.ร่วมกันสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพและสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่อสังคม


5.เป็นส่วนสำคัญของการสร้างความเปลี่ยนแปลงและช่วยแก้ปัญหาสังคม


เรื่องเล่าคนกล้า จิตอาสา


คุณลักษณะสำคัญของการเป็นอาสาสมัคร


1.มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายและทำอย่างเต็มความสามารถ


2.การทำงานอาสาสมัครมักเป็นการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ควรไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานและผู้ที่เราเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเคารพ


3.มีทักษะในการสื่อสาร คือสามารถสื่อสารความต้องการของตนเอง และรู้จักรับฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ เข้าใจตนเองและเข้าใจผู้อื่น


4.ทำความเข้าใจและมีความละเอียดอ่อนต่อความหลากหลายวัฒนธรรม


5.มีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา


6.ตรงต่อเวลา


7.ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เบียดเบียนซ้ำเติมผู้ที่เดือดร้อน


แต่สำหรับกลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครเท่งเสื้อส้มนั้น จท.โกมศร์ เล่าว่าเปิดรับอาสาสมัครทั่วไปให้คนที่มีจิตอาสา มีความตั้งใจอยากเป็นอาสาสมัครเข้ามาสมัครเป็นอาสาสมัคร ดังคำพูดที่ว่า “ใจมา เวลามี พร้อมที่จะยกระดับการศึกษา คนที่บ้านก็ไม่ด่ามากนัก” คือมีคุณลักษณะ 4 ข้อ ซึ่งได้แก่


1.มีใจ ใจต้องมาคือความอยากเป็นอาสาสมัคร


2.ต้องมีเวลาเพียงพอในการไปช่วยเหลือพี่น้อง


3.ต้องเข้าฝึกอบรม พร้อมที่จะพัฒนา ยกระดับขีดความสามารถ ของตัวคุณเองและของทีม


4.สร้างความเข้าใจกับครอบครัว  แบ่งเวลาให้ถูก 


1 ตำบล 1 ศูนย์การจัดการภัยพิบัติ


จท.โกมศร์ เล่าต่อว่า ต้องการสร้างให้มีศูนย์การจัดการภัยพิบัติในระดับตำบลขึ้น เป็นการจัดการตนเองของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบล โดยใช้ศูนย์การจัดการภัยพิบัติเข้าไปขับเคลื่อนงานการจัดการภัยพิบัติ เมื่อเกิดศูนย์แล้วเราก็เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย จาก 1ตำบล เป็น 10 ตำบล เป็น 20 ตำบล และเราข้ามภูมิภาคไป


การรับมือภัยพิบัติในชุมชนสิ่งแรก คือ ระบบข้อมูล และการวิเคราะห์สถานการณ์ย้อนไปในอดีตที่ทำให้รู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง บริบทของพื้นที่เป็นอย่างไร  ต้องมีระบบการเตือนภัยที่ดี  การเตรียมพร้อมในระยะก่อนเกิดเหตุเป็นสิ่งสำคัญ ชุมชนต้องได้รับการสื่อสารให้เขาสามารถเตรียมพร้อมรับมือให้ได้ เช่นเกิดภัยพิบัติ คุณจะต้องมีอาหารกินอยู่แล้ว 15 วัน ไม่ต้องรอถุงยังชีพ เป็นต้น  เพราะฉะนั้นการรับมือภัยพิบัติ หัวใจสำคัญที่สุดก็คือ คนในชุมชน จะต้องลุกขึ้นมาด้วย อาสาสมัครเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น และภาคีอื่นๆ  โดยเฉพาะ สสส.ก็มีบทบาทไปสร้างกระบวนการให้อาสาสมัครมีศักยภาพ ให้ศูนย์สามารถพัฒนาเป็นระบบได้


เรื่องเล่าคนกล้า จิตอาสา


“การจัดการศูนย์ภัยพิบัติ คือ เราสร้างอาสาสมัครไว้ อาสาสมัครจะต้องมีข้อมูล  มีศูนย์บัญชาการ  มีระบบการสื่อสารที่สามารถเชื่อมโยงได้ ทั้งสื่อสารภายในและสื่อสารภายนอก  และมีระบบบัญชาการ สั่งการได้อย่างรวดเร็ว การเชื่อมโยงหน่วยงานภาคี เชื่อมโยงเพื่อนมาช่วยเพื่อน ต้องวางระบบ สุดท้ายก็จะมีกองทุนจัดการเอง เพราะว่าถ้าการช่วยเหลือไม่มีกองทุนมันไม่สามารถที่จะทำอะไรได้“


สุดท้าย จท.โกเมศร์ เล่าถึงบทบาทของ สสส. ที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ ว่า สสส.โดยสำนัก 3 สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน มีบทบาทสำคัญมาก เพราะว่า ภัยพิบัติส่งผลกระทบต่อ 13 กลุ่มประชากรหลัก  กลุ่มเหล่านี้เมื่อเกิดภัยพิบัติ จะได้รับผลกระทบหมด และกระทบทุกมิติ ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ทรัพยากร วันนี้ สสส.เองจะต้องหนุนเสริมเรื่องระบบ สสส.มีแนวคิด มีระบบในเรื่องของการจัดการข้อมูล มีรูปแบบ มีโปรแกรม เพราะข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา ยกระดับ ขีดความสามารถของคน และพัฒนายกระดับศูนย์ เพราะฉะนั้น สสส.ไปหนุนเสริมพัฒนาระบบข้อมูล  นอกจากนี้ สสส. ยังสร้างเครือข่ายให้เครือข่ายเกิดการเรียนรู้แนวราบ ทำให้เครือข่ายเกิดการเชื่อมโยง สร้างพลังกันเอง ทั้งยังนำงานวิชาการมาเติมเต็มและยกระดับข้อเสนอชาวบ้านให้เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


แม้ทุกวันนี้ ชุมชนจัดการตนเองค่อนข้างได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่นับว่า สสส. เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่หนุนเสริมกระบวนการชุมชน หนุนเสริมหนึ่งตำบลหนึ่งศูนย์การจัดการภัยพิบัติให้เข้มแข็งขึ้นนั่นเอง ส่วนใครที่มีใจอยากเป็นอาสาสมัคร สามารถเข้าร่วมโครงการต่างๆ  ได้ที่ ธนาคารจิตอาสา www.jitarsabank.com


 

Shares:
QR Code :
QR Code