เรียนรู้นมแม่จากภาพ
มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย แนะสถานพยาบาลและคลินิกนมแม่ทั่วประเทศใช้หนังสือ “เรียนรู้นมแม่จากภาพ” เพื่อให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใช้เป็นคู่มือและแหล่งความรู้ในการสนับสนุนการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทั้งนี้หนังสือ “เรียนรู้นมแม่จากภาพ” (ฉบับภาษาไทย) หรือ the breastfeeding atlas thai edition จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ที่ทรงนำเรื่องของนมแม่กลับคืนมาสู่สังคมไทย
โดยได้รวบรวมองค์ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและทักษะปฏิบัติจากคณะผู้จัดทำที่มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวกับนมแม่มามากกว่า 10 ปี แบ่งเนื้อหาเป็น 6 ตอน ประกอบด้วย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับนมแม่, ปัญหาหัวนม ลานนม และเต้านมที่พบบ่อย, การให้นมแม่ในสภาวะพิเศษ, กรณีศึกษา (case study), การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เมื่อแม่ไปทำงาน และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยใช้การอธิบายด้วยภาพเพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่แพทย์ พยาบาล ก็สามารถเข้าใจและนำไปช่วยคุณแม่ให้เลี้ยงลูกได้สำเร็จ
พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้นอกจากจะเป็นคู่มือที่สำคัญในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกระดับ ในการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ประสบความสำเร็จ ยังสามารถช่วยให้ผู้อ่านหรือประชาชนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่าย และสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ทันที โดยสมาคมวิชาชีพส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นานาชาติ (academy of breastfeeding medicine) ได้เสนอให้ความร่วมมือในการเผยแพร่สู่นานาชาติ ซึ่งจะทำให้การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แพร่ขยายไปในระดับอาเซียนอีกด้วย “ปัจจุบันแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางในเรื่องของนมแม่ยังมีไม่เพียงพอ ดังนั้นทุกสถานบริการที่ดูแลแม่และลูกก็ควรจะมีคู่มือในการทำงาน หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเสมือนคู่มือข้างกายของบุคลากรที่ทำงานด้านการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น” พญ.ศิริพร ระบุ
วิไลรักษ์ บุษบรรณ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำงานที่คลินิกนมแม่ แม้จะทำหน้าที่พยาบาลมานานกว่า 15 ปีก็ยังไม่มีความรู้เรื่องนมแม่อย่างลึกซึ้ง รู้ก็แต่วิธีการเอาลูกเข้าเต้า แต่ถ้าลูกไม่ดูดก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ได้แต่นั่งให้กำลังใจไปเท่านั้น “หนังสือเล่มนี้ทำให้การทำงานของพยาบาลในคลินิกนมแม่ง่ายขึ้น อย่างกรณีที่แม่ต้องกลับไปทำงาน เดิมทีก็อธิบายกันปากเปล่ากับแม่ว่าต้องทำอย่างไร ทำผิดทำถูกกันบ้าง เพราะบางครั้งการสื่อสารอาจเข้าใจไม่ตรงกัน แต่พอมีหนังสือเรียนรู้นมแม่จากภาพ ก็ช่วยทำให้แม่ได้เห็นภาพวิธีการและขั้นตอนต่างๆ ที่ชัดเจนและถูกต้อง ทั้งวิธีการบีบน้ำนม การเก็บน้ำนมที่ถูกต้อง การนำน้ำนมกลับบ้าน หรือแม้กระทั่งการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง” นางวิไลลักษณ์ กล่าว
หทัยทิพย์ โสมดำ พยาบาลประจำคลินิกนมแม่ เล่าว่า ในช่วงที่ยังเป็นนักศึกษาพยาบาล ไม่ได้มีการเรียนการสอนในเรื่องของนมแม่แบบเจาะลึกและจริงจัง ความรู้ที่มีจึงเป็นความรู้จากตำราเบื้องต้นว่าทำอย่างไรแต่ไม่เคยได้ฝึกทำจริง เมื่อได้มาทำงานจึงรู้ว่าการที่จะทำให้ลูกได้กินนมแม่นั้นแม้จะไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะเป็นเรื่องเฉพาะของแต่ละคน “ในหนังสือเล่มนี้จะมีวิธีการให้นมที่แตกต่างกัน ลงลึกในแต่ละปัญหาและรายละเอียด มีภาพให้เห็นอย่างชัดเจนในแต่ละกรณี ก็จะทำให้เราสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง และยังช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ทั้งเด็กปกติ เด็กป่วย หรือเด็กที่คลอดก่อนกำหนด” น.ส.หทัยทิพย์ กล่าว
“อย่างเด็กดาวน์ซินโดรมที่เข้ามาที่คลินิกนมแม่ครั้งแรกก็ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ เพราะมีความฝังใจมาตั้งแต่สมัยเรียนว่าเด็กป่วยไม่สามารถเลี้ยงด้วยนมแม่ได้ แต่พอได้ดูในหนังสือ เห็นภาพวิธีการและขั้นตอนต่างๆ ก็สามารถช่วยให้เด็กดาวน์ฯ ได้กินนมแม่ประสบความสำเร็จ” จุฬาภรณ์ เสริมกิจ พยาบาลอีกท่านหนึ่ง กล่าวเสริมถึงประโยชน์ของหนังสือเรียนรู้นมแม่จากภาพ
ด้านนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 จากมหาวิทยาลัยรังสิต นภนต์ ลุประสงค์ กล่าวถึงหนังสือเรียนรู้นมแม่จากภาพ ว่า เป็นหนังสือที่ดีมากโดยเฉพาะความรู้ในเรื่องของนมแม่ เพราะส่วนใหญ่จะเรียนในภาพรวม หรือความรู้พื้นฐานในเรื่องนมแม่เท่านั้น และมีหลายๆ ภาพที่หาไม่ได้จากในตำราเรียนแพทย์ “อย่างกรณีที่แม่มีขนาดเต้านมที่ใหญ่มาก หรือ hypertrophic breast ที่พบเห็นได้ยากมาก ในตำราเรียนก็มีภาพประกอบเพียง 1 รูป แต่ในหนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบเยอะมาก และมีวิธีการช่วยเหลืออย่างละเอียด จึงเป็นหนังสือที่มีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อแพทย์ พยาบาล และแม่ ที่จำเป็นที่จะต้องใช้เป็นแนวทางในการทำงานเพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่” นภนต์ กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์