เยาวชนอาสา ฮีโร่แห่งมหาชัย
จากเด็กแว้น…สู่เยาวชนอาสากู้ภัย “ณภัทร อุ่นใจชน” ฮีโร่แห่งมหาชัย
เสียงบิดรถมอเตอร์ไซค์สุดบาดหูกระหึ่มขึ้นยามค่ำคืนที่ทุกคนหลับตานอน ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ใคร่ไม่พอใจนักกับพฤติกรรมป่วนเมืองของเด็กกลุ่มนี้ แต่สำหรับเด็กหนุ่มวัย 18 ปี อย่าง น้องเต้ย – นายณภัทร อุ่นใจชน ที่ยอมรับว่าแต่ก่อนก็เคยเป็นเด็กแว้นซิ่งมอเตอร์ไซค์ ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ เมื่อเข้ามาสู่โครงการกู้ชีพกู้ภัยจิ๋วของ ขององค์การบริหารส่วนตำบลมหาชัย อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ชีวิตของน้องเต้ยก็ไม่คิดหวนกลับไปเสเพลอีกต่อไป
“เมื่อก่อนผมก็เคยขี่มอเตอร์ไซค์ เคยแว้น เวลาว่างก็ไปเล่นเกม ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย แต่เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน เพื่อนผมได้เข้ามาชวนให้เข้าร่วมโครงการกู้ชีพกู้ภัยจิ๋วของ ต.มหาชัย เนื่องจากกำลังขาดคนทำงาน จึงลองอาสาเข้ามาทำดู ก็พบว่าสิ่งที่ผมทำถือว่าเป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่าทั้งต่อตัวเอง และเป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่น จึงร่วมออกไปทำอาสากู้ภัยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
จุดเปลี่ยนความคิดของน้องเต้ย ที่ไม่อยากกลับไปซิ่งมอเตอร์ไซค์อีกต่อไป ก็ด้วยการเข้ามาทำงานอาสาตรงนี้ โดยน้องเต้ย เล่าว่า การทำอาสากู้ภัยจิ๋วทำให้ได้ออกไปช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคืออุบัติเหตุทางถนน ไม่ว่าจะเป็นรถล้ม รถชน ทำให้ได้เห็นคนบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งตนไม่อยากลงท้ายด้วยการเป็นเช่นนั้น
ส่วนการออกไปกู้ภัยนั้น แน่นอนว่าจะต้องมีความรู้เรื่องการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้น น้องเต้ย บอกว่า ปัจจุบันตนศึกษาอยู่ที่ กศน. ของ อ.ไทรงาม ซึ่งในโรงเรียนก็มีการสอนความรู้พื้นฐานเหล่านี้ และก็เคยเป็นตัวแทนโรงเรียนไปประกวด จึงพอมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง นอกจากนี้ ยังได้รับการอบรมจาก อปพร. หรืออาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ของ ต.มหาชัยด้วย ซึ่งโครงการกู้ชีพกู้ภัยจิ๋วมาจากการที่เกิดอุบัติเหตุกับนักเรียนและเยาวชนของ ต.มหาชัยบ่อยครั้ง เนื่องจากมีถนนหลักตัดผ่านในการเดินทางเชื่อมจาก จ.กำแพงเพชร ไปสู่ พิจิตร และพิษณุโลก จึงมีโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อให้เด็กมีความรู้ มีภูมิคุ้มกันภัย ป้องกันระวังภัยจากอุบัติเหตุ และเมื่อเกิดเหตุขึ้นก็สามารถช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นได้
ผลของโครงการนี้พบว่า วัยรุ่นขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แบบประมาทลดลง รวมไปถึงเป็นการสร้างอาสาสมัครในการดูแลผู้อื่นในสังคม จนเป็นที่ชื่นชมของทุกคนในตำบล
“งานกู้ภัยจิ๋วที่ออกไปดำเนินการส่วนใหญ่จะเป็นอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่ไม่หนักหนาสาหัสมาก ที่พวกผมสามารถทำได้ เช่น ขาหัก แขนหัก เป็นต้น เมื่อพวกผมได้รับแจ้งเหตุอย่างผมอยู่ใกล้ที่สุดก็จะไปที่เกิดเหตุก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์ของคนเจ็บ บอกพิกัด อาการ เพื่อให้ทีมกู้ภัยจิ๋วคนอื่นที่จะตามมาเตรียมอุปกรณ์มาดูแลปฐมพยาบาลได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการออกปฏิบัติงานก็จะมี อปพร.มาดูแลด้วยหนึ่งคน ซึ่งการทำงานของพวกผมทำให้คนเจ็บมาเจ็บน้อยลง และลดโอกาสที่จะเสียชีวิตลงได้ ซึ่งตลอดการทำงานมาเกือบ 1 ปีของผมต่างก็ได้รับเสียงชื่นชมจากคนในตำบล เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนคนต่างก็รู้จัก ซึ่งไม่เพียงแต่ผมเท่านั้น แต่เยาวชนคนอื่นในทีมต่างก็เป็นที่รู้จักของคนในตำบล เราสามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างสง่าผ่าเผย ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจกับเสียงตอบรับตรงนี้มาก”
นอกจากการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการทำดี เป็นจิตอาสาให้แก่คนในสังคมแล้ว ยังเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ตัวเอง จากเด็กแว้นคนหนึ่งที่สายตาของคนในสังคมมองว่า พวกเขาเป็นแก๊งเด็กป่วนเมือง ซิ่งรถเสียงดัง นำพามาซึ่งความเดือดร้อน แต่บัดนี้เขาเหล่านั้นมีภูมิคุ้มกันตัวเอง สามารถเลือกได้ว่าอะไรคือเส้นทางในชีวิตที่เขาสามารถก้าวเดินได้อย่างภาคภูมิใจและเป็นที่ยอมรับ และสุดท้ายก็เป็นคนมาดูแลทุกๆ คนในตำบลหากได้รับอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางถนน หรืออุบัติเหตุทั่วไป
น้องเต้ย และทีมกู้ชีพกู้ภัยจิ๋ว ในสายตาของคนในตำบลจึงไม่ต่างอะไรกับเยาวชนฮีโร่ที่เมื่อถึงเวลาเกิดเหตุก็ต่างรีบมาช่วยผู้เดือดร้อนด้วยจิตอาสา และที่น่ายินดีอีกเรื่องหนึ่ง น้องเต้ยบอกว่า โครงการกู้ชีพกู้ภัยจิ๋ว ของ ต.มหาชัย ได้รับให้เป็นชุมชนตัวอย่างในการแก้ปัญหาเยาวชนด้วยหลัก 5S ซึ่งประกอบด้วย Share Sight Start Smartและ Support ในงานระดับประเทศ “ฟื้นพลังชุมชนสู่การอภิวัฒน์ประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยโครงการกู้ชีพกู้ภัยจิ๋ว เป็นตัวอย่างของความ Smart คือเยาวชนสามารถดึงความรู้ความสามารถที่ตนมีมาขับเคลื่อนงานของตัวเองได้อย่างสง่าผ่าเผย
ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์
ภาพประกอบจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์