เยาวชนล่อซื้อเหล้าพบ 84% ขายผิดกม.

          เครือข่ายเยาวชนฯ บุก สธ.ทวงถามความคืบหน้า กม.จัดโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษา และเหล้าปั่น หลัง ครม.สั่งลุยแก้ปัญหา ย้ำห้ามออกใบอนุญาตให้ร้านเหล้าใหม่รัศมี 300 เมตร รอบสถานศึกษา ร้านเก่าให้ขายถูกต้องตามกม. ตั้งเวลาดีเดย์ย้ายร้าน เผยล่อซื้อเหล้า 62 ร้านค้า ขายผิดกม.ให้เยาวชนอายุ 20 ปีถึง 84%


/data/content/26194/cms/e_cdehnpvy1389.png


          เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ นำโดยนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ พร้อมสมาชิกเครือข่ายซึ่งเป็นนักเรียนจากหลายสถาบัน อาทิ ร.ร.มัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ วิทยาลัยราชพฤก ม.รามคำแหง ประมาณ 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อทวงถามความคืบหน้าการออกมาตรการควบคุมเหล้าปั่นและจัดระเบียบร้านเหล้ารอบสถานศึกษา เพื่อลดปัญหาผลกระทบต่อเด็กเยาวชน ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาที่ต้องการให้ควบคุมปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบถสานศึกษาอย่างจริงจัง


          นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ในรัศมี 500 เมตรรอบสถานศึกษา จะมีร้านเหล้าเฉลี่ย 57 ร้านต่อ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีทั้งร้านที่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต โดยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่น่าห่วงคือแทบทุกร้านมีการจัดโปรโมชันเรียกลูกค้าที่เป็นนิสิตนักศึกษา ส่งผลให้เกิดนักดื่มหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติแต่ละปีพบว่ามีนักดื่มหน้าใหม่เกิดขึ้นมากกว่า 2.5 แสนคน สอดคล้องกับที่เครือข่ายฯ ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นนักศึกษาที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะว่าเข้าถึงง่าย ร้านเหล้าอยู่ใกล้หอพักและสถานศึกษา ค่าใช้จ่ายในการดื่มแต่ละครั้งเกิน 1,000 บาท ซึ่งมาจากเงินที่ทางบ้านส่งให้ สภาพแวดล้อมเช่นนี้เป็นการมอมเมาเยาวชนและนำไปสู่การทะเลาะวิวาท ก่ออาชญากรรม เสียการเรียน เสียสุขภาพ และถูกคุกคามทางเพศ ซึ่งที่ผ่านมาเครือข่ายฯ ได้เรียกร้องเรื่องเหล่านี้ต่อรัฐบาลและ สธ.มานานกว่า 6 ปีแล้ว จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ต่อ รมว.สาธารณสุขอีกครั้งหนึ่ง


          "พวกเราหวังว่า รมว.สาธารณสุข จะเห็นความสำคัญ ไม่ปล่อยให้สมองของเยาวชนไทยถูกทำลายไปมากกว่านี้ ซึ่งปัจจุบันไอคิวของเด็กไทยก็ต่ำกว่ามาตรฐานสากลอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราพยายามผลักดันเรื่องการจัดโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษามาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนในการออกกฎหมายเพื่อบังคับใช้ ทั้งที่สามารถออกได้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ขณะที่เหล้าปั่นก็ยังไม่มีกฎหมายที่ควบคุมเฉพาะ จึงอยากถามว่า สธ.จะดำเนินการเรื่องนี้ต่ออย่างไร ร่างกฎหมายอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว ซึ่งในอดีตฝ่ายการเมืองแทบทุกรัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจ จึงอยากให้กำลังใจ สธ.เพราะก็มีความพยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่" นายธีรภัทร์ กล่าว


          นายธีรภัทร์ กล่าวว่า แม้จะยังไม่มีกฎหมายเรื่องโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษาโดยเฉพาะ แต่อยากให้เข้มงวดในเรื่องนี้ โดยต้องไม่ออกใบอนุญาตให้แก่ร้านเหล้ารอบสถานศึกษา 300 เมตรอีกต่อไป เพื่อไม่ให้มีจำนวนร้านใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนร้านเก่าก็ต้องกำหนดเวลาให้ชัดเจนว่าจะให้ขายต่อได้ถึงเมื่อไร ที่สำคัญคือต้องควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการขายเหล้าผิดกฎหมาย คือขายเหล้านอกเวลาที่กฎหมายกำหนด และขายให้แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี


          นายปรากฏการณ์ วัฒนสาร ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนฯ กล่าวว่า จากมติ ครม.ที่ให้ควบคุมปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ทำให้มีความหวังว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้มองเห็นปัญหา และต้องการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม พวกเราจึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเรียกร้องต่อ สธ. เพื่อขานรับต่อนโยบายของ ครม.ดังนี้ 1.ขอให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงานของ สธ. และยินดีร่วมเฝ้าระวังสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย 2.ขอทราบความคืบหน้าการออกอนุบัญญัติ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตร ตามอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการห้ามขายเหล้าปั่น เพื่อลดจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ 3.ขอให้เชิญผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ทุกแบรนด์ที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มารับทราบข้อกฎหมาย และแนวปฏิบัติเพราะหลายร้านยังฝ่าฝืนขายเหล้าให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยอาจขอความร่วมมือในการตรวจบัตรประชาชน และ 4.ลงพื้นที่ตรวจร้านเหล้ารอบสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีการทำผิดกฎหมาย จัดโปรโมชัน ขายนอกเวลาและผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี


          นายปรากฏการณ์ กล่าวว่า เครือข่ายฯ ได้ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีทำการล่อซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากร้านขายเหล้ารอบสถานศึกษาจำนวน 62 ร้าน แบ่งเป็นร้านโชห่วย 39 ร้าน และร้านสะดวกซื้อ 23 ร้าน จาก 10 พื้นที่ คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ม.รามคำแหง ม.รัตนบัณฑิต ม.สยาม มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ม.หอการค้า ม.ศรีปทุม มรภ.สวนดุสิต-สวนสุนันทา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ร้านโชห่วย 34 ร้านมีการขายให้แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ร้านสะดวกซื้อ 18 ร้านมีการขาย รวมเป็น 52 ร้านหรือ 84% ที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย


 


 


     ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 


     ภาพประกอบกจาอินเทอร์

Shares:
QR Code :
QR Code