“เมื่อการข้ามเพศ ต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ” หนุนระบบบริการสุขภาพบุคคลหลากหลายทางเพศ ลดช่องว่าง สร้างความเท่าเทียม

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

                             สสส.-กสม.-กทม. สานพลังภาคี จัดกิจกรรม “เมื่อการข้ามเพศ ต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ” เคลื่อนระบบบริการสุขภาพบุคคลหลากหลายทางเพศ หลังพบข้อจำกัดทั้งปริมาณ ความรู้ความเข้าใจ อึ้ง!! พบการใช้ฮอร์โมนเกินขนาด อันตรายถึงชีวิต นำร่องเปิดคลินิกหลากหลายทางเพศ 4 ภาค และใน กทม. 11 แห่ง

                             เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2565 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โครงการ “ส่งเสริมสุขภาวะและลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนข้ามเพศในประเทศไทย” จัดแถลงข่าวและฉายสารคดี “เมื่อการข้ามเพศ ต้องได้รับการคุ้มครองจากรัฐ” นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการนี้ส่งเสริม สนับสนุนให้คนข้ามเพศมีช่องทางสื่อสารความต้องการ ข้อจำกัดด้านบริการสุขภาพ และร่วมกันพัฒนานโยบายด้านสุขภาพของคนข้ามเพศ เพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะแม้ไทยจะได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย แต่กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศยังถูกเลือกปฏิบัติในสังคม จากความเชื่อและทัศนคติแง่ลบ ส่งผลกระทบทางร่างกายและจิตใจ เช่น เป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งรังแก ถูกเลือกปฏิบัติ

 

                             และพบว่าเข้าถึงบริการด้านสุขภาพน้อยกว่ากลุ่มรักต่างเพศ ส่วนหนึ่งเกิดจากสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านสุขภาพผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศยังมีอยู่จำกัด มีประเด็นละเอียดอ่อนเรื่องเพศ รวมถึงการขาดนโยบายทางสุขภาพที่ครอบคลุมความจำเป็นของผู้รับบริการ เช่น บุคคลข้ามเพศที่ต้องใช้ฮอร์โมน ค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการ ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกกังวล ขาดความมั่นใจ และไม่อยากเข้ารับบริการด้านสุขภาพ

                             “ในบุคคลข้ามเพศที่ต้องการเปลี่ยนแปลงร่างกายให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง ส่วนใหญ่หาซื้อฮอร์โมนกินเองตามท้องตลาด หรืออินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เกิดการใช้ฮอร์โมนเกินขนาด หรือผิดวิธี มีความเสี่ยงทางสุขภาพ อาจนำไปสู่ผลกระทบต่อร่างกายและเป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะนี้ สสส. ร่วมกับ GenV Clinic คลินิกเพศหลากหลาย โรงพยาบาลรามาธิบดี สานพลังภาคีเครือข่าย จัดตั้งศูนย์ให้บริการสุขภาพบุคคลข้ามเพศ ทั้ง 4 ภาค เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต ลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สำหรับงานวันนี้เป็นการสื่อสารเรื่องราวชีวิตในแง่มุมต่างๆ ของบุคคลข้ามเพศ ทั้งจากหนังสารคดี การเสวนา และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นต้นทุนที่จะนำไปขับเคลื่อนการทำงานสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ ให้ได้รับสิทธิบริการทางสุขภาพและสังคมที่สอดคล้องความจำเป็นในการใช้ชีวิตต่อไป” นายชาติวุฒิ กล่าว

 

                             น.ส.สุภัทรา นาคะผิว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า สิทธิที่จะได้รับบริการสาธารณสุขคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน การให้บริการเพื่อการข้ามเพศถือเป็นความจำเป็นด้านสุขภาพของกลุ่มคนที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด พวกเขามีสิทธิที่จะกำหนดเจตจำนงในวิถีชีวิตของตัวเอง การข้ามเพศไม่ใช่การเสริมความงาม พวกเขาจึงไม่ได้เรียกร้องสิทธิพิเศษแต่อย่างใด รัฐจึงต้องให้การคุ้มครอง

 

                             ผศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ให้ความสำคัญและสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศภาวะในสังคม และส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพแก่บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างทั่วถึง โดยกรุงเทพมหานคร เปิดนำร่อง “คลินิกสุขภาพเพศหลากหลายกรุงเทพมหานคร (BKK Pride Clinic)” จำนวน 11 แห่ง ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ กรุงเทพกลาง กรุงเทพใต้ กรุงเทพตะวันออก กรุงธนเหนือ กรุงธนใต้ และจะเพิ่มเป็น 21 แห่งภายในปี 2565

 

                             ณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้รับผิดชอบโครงการส่งเสริมสุขภาวะและลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนข้ามเพศในประเทศไทย กล่าวว่า Nothing for Trans without Trans หรือ ไม่มีอะไรเป็นของคนข้ามเพศ หากคนข้ามเพศไม่ได้มีส่วนร่วม เป็นที่มาของโครงการฯ ที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน พัฒนานโยบายและส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เกี่ยวกับการข้ามเพศ เพื่อรณรงค์เรื่องการสร้างระบบ และกลไกเชิงรุกในระดับนโยบายที่ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยการสะท้อนปัญหา ช่องว่างการบริการ และแนวทางพัฒนาระบบบริการสุขภาพของคนข้ามเพศ จากตัวเจ้าของปัญหา เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคมที่จะ “ไม่ลืมใครไว้ข้างหลัง” ด้วยการพัฒนาบริการสุขภาพที่เกี่ยวกับการข้ามเพศที่มีคุณภาพ เป็นมิตร เข้าถึงง่าย และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code