เมืองนนท์จัดเรือยาวปลอดเหล้าและปลอดบุหรี่
ชิงถ้วยพระราชทานล่าเงินกว่าล้าน
นายชวลิต ธูปตาก้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ร่วมเป็นประธานแถลงข่าว จังหวัดนนทบุรี จัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2553 ณ บริเวณศาลาริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า การจัดการแข่งขันเรือยาว ประเพณีของจังหวัดนนทบุรี นั้นถือเป็นกิจกรรมทีมชาวจังหวัดนนทบุรี เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และในปีนี้ทางจังหวัดนนทบุรียังคงเล็งเห็นความสำคัญ ในการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณี การแข่งขันเรือยาวเมืองนนท์ต่อไป เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นคุณค่าความสำคัญ และช่วยกันการอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามให้อยู่คู่กับชาติไทยสืบไปอีกด้วย
ขณะที่ นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี กล่าวว่า สำหรับด้านความพร้อมในการจัดการแข่งขันนั้น ทางจังหวัดนนทบุรี ได้มีการเตรียมความพร้อมเต็มที่แล้ว ถึงแม้ทางปีนี้เมืองนนท์จะได้รับผลกระทบภัยพิบัติน้ำท่วมก็ตาม นอกจากนี้ ทาง จ.นนทบุรี ยังได้ร่วมมือกับทาง สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อรณรงค์ให้การแข่งขันเรือยาวประเพณีของเมืองนนท์ เป็นการแข่งขันเรือยาวปลอดเหล้าและปลอดบุหรี่อีกด้วย และการแข่งขันในครั้งนี้ จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย. 2553 ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากแฟนเรือยาวเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเนืองแน่นเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
โดยครั้งนี้ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ เรือยาวใหญ่ ก.1 55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, เรือยาวใหญ่ ก.22 ฝีพาย, เรือยาวเล็ก ก.1 30 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, เรือยาวเล็ก ก.2 30 ฝีพาย และประเภทเรือยาวมาราธอน 8,400 เมตร 55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งครั้งนี้มีเรือดังเข้าร่วมชิงชัยอย่างมากมาย โดยในประเภทเรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย ก.1 อาทิ เรือทีโอที 3 จี-หนุ่มเมืองนนท์, เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง, เรือพรพระยาตาก, พญาชาละวัน, เรือเอกนาวา, เรืออัครนาวา, เรือศรอุบล, เรือเจ้าแม่สองนาง ส่วนประเภท เรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย ก.2 มี เรือสร้อยฟ้า, เรือยอดนาวา, เรือเจ้าแม่หลังสวน, เรือเทพพานเพชร, เรือเทพธรรมรัตน-เอ็ม-150, เรือนางคำสิงห์, เรือศรพระยา และเรือขุนปราบ
ด้านประเภทเรือยาวเล็ก 30 ฝีพาย ก.1 ประกอบด้วย เรืออัครโยธิน, เรือสาวโตชิบา, เรือแม่ป้อม, เรือยุทธนาวี, เรือเพชรประดู่, เรือศรีนครชัย, เรือเทพประทานพร, เรือเจ้าแม่ทอง ส่วนประเภทยาวเล็ก 30 ฝีพาย ก.2 มี เรือคนสวยเมืองเพชร, เรือศรีลำดวน, เรือแก่นเพ็ชร, เรือพระยาเมืองนนท์, เรือเจ้าแม่ขันเงิน, เรือหมื่นไวย์ เรือเจ้าแม่สายชล และเรือเจ้ามงคลสาคร ทีวีโอ ร่วมลงชิงชัย
สำหรับรางวัลของการแข่งขันในโดยประเภทเรือยาวใหญ่ ก.1 55 ฝีพาย เรือชนะเลิศ จะได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท, รองชนะเลิศ จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 100,000 บาท, อันดับ 3 ได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 50,000 บาท, ประเภทเรือยาวใหญ่ ก.2 55 ฝีพาย จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 30,000 บาท, อันดับ 2 จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 20,000 บาท, อันดับ 3 จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 15,000 บาท
ส่วนประเภทเรือยาวเล็ก 30 ฝีพาย ก.1 เรือชนะเลิศ จะได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท, รองชนะเลิศ จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 50,000 บาท, อันดับ 3 ได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 20,000 บาท
ประเภทเรือยาวเล็ก ก. 55 ฝีพาย จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 20,000 บาท, อันดับ 2 จะได้ ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 15,000 บาท, อันดับ 3 จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 10,000 บาท และประเภทเรือยาวมาราธอน 8,400 ม. เรือชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 84,000 บาท, รองชนะเลิศ จะได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 58,400 บาท, อันดับ 3 ได้ถ้วยเกียรติยศ พร้อมรับเงินรางวัล 38,400 บาท
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามกีฬา
update : 02-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน