เมาไม่มันส์มันส์ต้องไม่เมา ปี 2

 

เมาไม่มันส์มันส์ต้องไม่เมา ปี2

 

กิจกรรมปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือ สสส. เดินหน้ารณรงค์มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นิสิต นักศึกษา ได้มีความรู้ความเข้าใจและเห็นถึงโทษของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมกันนี้สสส.ยังสร้างเครือข่ายใน 4 กลุ่มสถาบัน ทั้ง unetwork u-participation u-active และ u-plus ในการเดินหน้ารณรงค์อย่างเต็มรูปแบบ และผลจากการเดินรณรงค์อย่างจริงจังในหลายปีผ่านๆ มาก็ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก จากการสำรวจของเอแบคโพลล์ระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษาตอนนี้เหลือไม่ถึง 10% และนอกจากนั้นแล้ว สสส.ยังเดินหน้าโรดโชว์ 4 ภาคทั่วไทยกับกิจกรรมปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษาโดยเริ่มเปิดฉากที่ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ในงานมหกรรม “เมาไม่มันส์ มันส์ต้องไม่เมา ปี 2” แม่โจ้ปีนี้ “เจ๋ง” กว่าที่คุณคิด ซึ่งปีนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้เดินหน้ารณรงค์เต็มที่ ภายในงานจึงอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสนุกสนานและมากด้วยสาระความรู้มากมาย

จริงหรือไม่ก็ต้องไปฟังจากปากบรรดาโจ๋ที่ไปร่วมงาน หนุ่มบอม หรือ เมธี จารุวรรณโชติ ประธานชมรมสร้างเสริมสุขภาพ และประธานเครือข่าย unetwork ภาคเหนือตอนบน นักศึกษาปีที่ 2 คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยหนุ่มบอมถือเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญในการรณรงค์ เล่าถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ผมอยากให้นิสิต นักศึกษา ได้ทราบ และเข้าร่วมรณรงค์ในกิจกรรมที่สร้างสรรค์อย่างไร้แอลกอฮอล์

โดยได้รับประโยชน์กลับไปให้ได้มากที่สุดครับ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ผมชอบมาก เพราะได้มีส่วนช่วยทำให้หลายๆ คนทราบว่า ในยุคสมัยนี้วัยรุ่นหันมาให้ความสำคัญในการรณรงค์ปลอดเหล้ามากขึ้น และการรณรงค์ต่างๆ เหล่านี้ก็มีส่วนช่วยทำให้ผู้ที่ดื่มหรือผู้ที่คิดจะดื่มเกิดการหยุดคิดและมองเห็นโทษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ชัดเจนขึ้นและจะส่งผลทำให้พฤติกรรมการดื่มลดลงด้วยครับและสำหรับคนที่กำลังดื่มอยู่ผมอยากให้เขาหยุดคิดและทราบว่า ถ้าคุณไม่ดื่มเหล้านอกจากจะได้ในเรื่องของ

สุขภาพของตัวเองแล้ว ในสายตาคนอื่นคุณยังได้รับการชื่นชม

เช่นเดียวกับ เฟรช-อภิชาต ตุ้ยเกี๋ยว นักศึกษาปีที่ 2 คณะศิลปศึกษา สาขาดนตรีคีตศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย บอกว่านอกจากจะให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของการดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นข้อมูลแล้วในแต่ละบูธกิจกรรมยังสนุก และสอดแทรกความรู้ไว้มากมายด้วยครับและที่สำคัญมันเป็นความรู้ที่เราไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียน อย่างการได้มานั่งฟังธรรมะจากพระอาจารย์เผด็จ ติสโร ก็เป็นธรรมะที่ไม่น่าเบื่อแถมยังสนุก ให้ความรู้ และมีคติสอนใจเกี่ยวกับเรื่องของโทษจากการดื่มแอลกอฮอล์ไว้อย่างมากมาย นอกจากนั้นผมยังได้ความรู้จากการเสวนาของผู้บริหารทั้งจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้เอง และจาก สสส.รวมถึงแกนนำที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติจริงๆ อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความรู้ที่ผมไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียนได้เลยครับ และผมก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆที่ยังดื่มอยู่ว่าอย่าไปดื่มเลยครับเพราะนอกจากตัวเองจะได้รับโทษจากพิษของสุราแล้ว คนรอบข้างก็อาจจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

ปิดท้ายกันที่ 2 สาวเพื่อนซี้อย่าง น้องต้นหอมสุภารัตน์ วงศ์เรือง และน้องเมย์-ปฐมพร ยอดปนันท์นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์อาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยน้องต้นหอมได้เล่าถึงการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ว่า โครงการนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้เยาวชนอย่างพวกเราหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นนะคะ เพราะเมื่อเราทราบถึงโทษของมันแล้วเราจะไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว และยังช่วยส่งเสริมให้ทุกคนหันมาทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อเป็นอีกหนทางหนึ่งในการหลีกเลี่ยงการมั่วสุมการดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ และการรณรงค์ให้ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษาที่มหาวิทยาลัยของเราได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนิสิต นักศึกษา เองจะได้รับประโยชน์โดยตรงแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนิสิต นักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และอยากให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญในการรณรงค์ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษาให้มากๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ส่งผลไปถึงในเรื่องของการเรียน และยังช่วยลดในเรื่องของอุบัติเหตุต่างๆที่มีผลมาจากการดื่มและเป็นการแสดงถึงศักยภาพของนิสิต นักศึกษา ในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์และมีประโยชน์ เชื่อว่าทุกกิจกรรมจะสนุกได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแอลกอฮอล์

ฟังไอเดียสร้างสรรค์จากบรรดาโจ๋ไทยที่ร่วมกันจัดกิจกรรมสร้างสรรค์แบบไร้แอลกอฮอล์ในรั้วสถาบันการศึกษาแล้ว คงทำให้หลายหน่วยงานได้ปลื้มใจกันไม่น้อยที่อนาคตของชาติใช้เวลาในการแสวงหาความรู้กันอย่างเต็มที่โดยไม่ข้องเกี่ยวกับสิ่งมอมเมา และเชื่อมั่นว่าเครือข่ายคุณภาพเหล่านี้จะแพร่ขยายไปสู่สถาบันการศึกษาและชุมชนใกล้เคียงจนเกิดพลังที่เข้มแข็งในการต่อต้านกับพิษภัยจากน้ำเมาในที่สุด

 

 

ที่มา :  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ