‘เมตตา รุ่งรัตน์’ ดูแลสามีป่วยจากบุหรี่

เปิดหมดใจ  "เมตตา รุ่งรัตน์"  ดูแลสามีป่วยจาก "บุหรี่" ยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น


'เมตตา รุ่งรัตน์' ดูแลสามีป่วยจากบุหรี่ thaihealth


แฟ้มภาพ


"3 ปีที่ดูแลสามีที่ป่วยโรคถุงลมโป่งพองเหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งตัวเองและสามี เรื่องพวกนี้ใครไม่เผชิญกับตัวเองคงไม่รู้สึก ว่าการดูแลผู้ป่วยทั้งที่ตัวเราเองก็ป่วยด้วยนั้นมันทุกข์ทรมานแสนสาหัสแค่ไหน ทุกข์ทั้งกาย ทุกข์ทั้งใจนี่หากตายแทนเองได้ก็ขอตายแทนไปแล้ว"


นี่คือคำบอกเล่าที่สะท้อนถึงความในใจของ "ไข่มุกดำแห่งเอเชีย"  เมตตา รุ่งรัตน์ นักแสดงอาวุโส ที่มาเล่าประสบการณ์การดูแลสามี พล.ต.อำนวย กิจสุวรรณ ซึ่งป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ ผ่านเวทีเสวนา "เครือข่ายผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่" ซึ่งจัดโดยสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติ เพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


ภายในงาน เมตตา รุ่งรัตน์ ยังกล่าวอีกว่าทั้งหมดทั้งมวลคือผลกระทบที่เกิดจากพิษภัยของ"บุหรี่" ซึ่งไม่เพียงเกิดแต่กับตัวสามีเท่านั้น แม้แต่กับตัวเองก็ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสองด้วยเพราะ 30 ปีที่ใกล้ชิดกันก็ได้รับควันบุหรี่มือสองไปมาก จากเดิมที่เคยสุขภาพดีก็มาเป็นโรคภูมิแพ้โรคหอบหืด ซึ่งคาดว่าตอนนี้ปอดน่าจะมีปัญหาบ้างแล้ว ซึ่งหลังจากตนเริ่มป่วย สามีก็ตั้งใจเลิกบุหรี่เลิกได้มาเป็น 10 ปี และตัดสินใจไปใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยกันที่ จ.นครนายก ก็คิดว่าน่าจะมีความสุขดี แต่ไม่เลย เพราะสามีต้องมาป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพองในระยะสุดท้าย ซึ่งไม่ได้เ'เมตตา รุ่งรัตน์' ดูแลสามีป่วยจากบุหรี่ thaihealthป็นแค่โรคนี้โรคเดียว กลับพาเพื่อนๆ มาด้วย ทั้งโรคแทรกซ้อนต่างๆ น้ำท่วมปอด ปอดติดเชื้อ


"เมื่อสามีป่วย ทุกอย่างเราก็ต้องเป็นคนดูแล ทั้งเรื่องการจัดอาหาร ยา แม้แต่เข้าห้องน้ำการขับถ่าย ปัสสาวะอุจจาระต่างๆ การอาบน้ำ เราต้องเป็นคนดูแลทั้งหมด แล้วโรคนี้เหมือนเป็นโรคเจ้ากรรมนายเวรตอนกลางวันสามีมักไม่ค่อยทรมานจากหายใจไม่ออกแต่จะชอบมาเป็นตอนกลางคืนในช่วงที่ร่างกายต้องการการพักผ่อน เรียกได้ว่าต้องดูแลทั้งกลางวันและกลางคืน จนเรานอนไม่ได้ จนคิดว่าตัวเองก็ไม่ไหวแล้วเช่นกันยิ่งช่วงเวลาพาไปหาหมอ ด้วยความที่สามีเป็นทหารเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ก็ต้องพยุงสามีไปโรงพยาบาลเวลาล้มก็ลากเราล้มลงไปด้วย เรียกว่าก็ทุลักทุเลไปด้วยกัน ซึ่งเป็นเช่นนี้อยู่ประมาณ 3 ปี ก่อนที่สามีจะเสียชีวิติ


เมตตา รุ่งรัตน์ เล่าอีกว่า ช่วงที่ดูแลสามียอมรับเลยว่าถอดใจ จึงอยากฝากบอกไปถึงทุกคนว่า อย่าสูบบุหรี่เลย บุหรี่ไม่ใช่ของดี มีแต่โทษ และถือเป็นยาเสพติด นอกจากทำลายสุขภาพแล้ว เมื่อป่วยขึ้นมาก็ต้องเสียเงินจำนวนมากในการรักษา อย่างสามีเป็นโรคถุงลมโป่งพองก็ต้องใช้เครื่องออกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมง ก็ต้องมาติดตั้งที่บ้าน และก็ต้องมีเครื่องสำหรับเวลาออกไปนอกบ้านด้วย ทำให้เวลาเดินทางก็ลำบาก และออกซิเจนนี่จะใช้หมดเร็วมากเป็นถังๆ


ถึงแม้จะทุกข์ทรมานกับการต้องดูแลสามีที่ป่วยจากโรคถุงลมโป่งพองที่มีสาเหตุมาจากพิษภัยของ"บุหรี่ แต่ "เมตตา รุ่งรัตน์" ก็ยังดูแลเพราะความรักและความผูกพันที่มีต่อกันมา แต่ก็ยอมรับว่า เคยคิดที่จะตายไปด้วยกันเลยยังจะดีกว่า แต่สุดท้ายก็มาระลึกถึงหลักธรรมะได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ทุกอย่างเป็นวัฏจักรดังคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงมีแรงใจที่จะสู้ต่อไป สู้ไปด้วยกัน คือเมื่อร่างกายป่วยก็ให้หมอช่วยรักษา แต่จิตใจของตัวเองต้องยอมรับให้ได้ว่าป่วยเป็นโรคนั้นโรคนี้ คือใจต้องไม่ป่วยตามไปด้วย ต้องเข้มแข็ง ต้องสู้แล้วจะเป็นผู้ชนะ ถึงแม้สุดท้ายจะต้องเสียชีวิตอยู่ดีก็ตาม


นอกจากนี้ ภายในงานยังมี บีม – วรานิษฐ์จิราโรจน์เจริญ ลูกสาวของตลกชื่อดัง ดี๋ ดอกมะดัน มาร่วมเล่าประสบการณ์การดูแลคุณพ่อที่ป่วยโรคหอบหืดและสูบบุหรี่ จนสุดท้ายเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น 2 รอบ ซึ่งแม้จะกู้ชีวิตขึ้นมาได้ แต่ก็ต้องเป็นเจ้าชายนิทรานานถึง 3 ปี ก่อนที่จะเสียชีวิตรวมไปถึงเรื่องราวของ นางสุจิตรา  ชาญรถไฟผู้ป่วยโรคหัวใจ ที่ต้องดูแลสามีสูบบุหรี่และเสียชีวิตจากโรคเส้นเลือดในสมองแตก


ทั้ง 3 เรื่องราวถือเป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมอีกบทหนึ่งของชีวิต ที่ "เมตตา รุ่งรัตน์""บีม-วรานิษฐ์"และ "สุจิตรา" ร่วมถ่ายทอดเป็นปฐมประสบการณ์เวทีแรกของการจัดตั้งเครือข่ายผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ซึ่งเป็นเครือข่ายใหม่ที่จะสร้างสรรค์ผู้ป่วย ญาติผู้ได้รับผลกระทบจากบุหรี่ ให้ได้เป็นครู เป็นวิทยากร ในการสื่อสาร บอกเล่าเรื่องราวความทุกข์ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบุหรี่ให้แก่บุคคลทั่วไปและสังคมได้รับรู้ เพื่อให้คนที่ยังไม่ป่วยสามารถเลิกบุหรี่ได้ทันก่อนป่วย หรือคนที่ป่วยแล้วก็ชะลอความรุนแรงของโรคลงไป และให้คนรุ่นต่อไปที่เป็นอนาคตของประเทศและมีจำนวนน้อยลงได้เป็นกำลังพัฒนาประเทศอย่างมีสุขภาพดี


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

Shares:
QR Code :
QR Code