เพื่อนเยี่ยมเพื่อน ชวนสูงวัยให้กำลังใจกัน
ที่มา : เว็บไซต์คมชัดลึก
แฟ้มภาพ
คนผู้สูงวัยจำนวนมากมักจะมีความเหงาว้าเหว่ ซึ่งการได้พบปะกับคนในวัยเดียวกัน ก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความสุขใจได้แล้ว จึงมีการทำโครงการเพื่อนเยี่ยมเพื่อน เพื่อให้ผู้สูงอายุในชุมชนได้มีโอกาสให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ม.มหิดล นครสวรรค์ ส่งเสริมชุมชนยั่งยืน จัดโครงการเพื่อนเยี่ยมเพื่อน โดยให้ผู้สูงวัยในชุมชนได้ดูแลซึ่งกันและกันเดือนละครั้ง เตรียมต่อยอดขยายผลจาก ชุมชนเมืองแนวราบ สู่ชุมชนเมืองแนวตั้ง ที่เป็นแหล่งพักอาศัยแบบคอนโดมีเนียม
เพื่อนเยี่ยมเพื่อน สิ่งที่ช่วยเยียวยาผู้คนในวันที่ร่างกายเริ่มร่วงโรย เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา ขอเพียงมีใครสักคนที่เข้าใจ มีเวลาให้ ได้พบปะสังสรรค์คนในวัยเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน ก็เป็นสุขใจแล้ว เหนืออื่นใดในวันที่ร่างกายร่วงโรย การทำจิตใจที่เข้มแข็ง และการทำทุกวันให้มีความหมาย เพื่อการเป็น ผู้สูงวัยเปี่ยมพลัง หรือ Active Agers ที่พร้อมปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุขและสร้างสรรค์
ศศิธร มารัตน์ หัวหน้าพยาบาล แห่งศูนย์ผู้สูงอายุเขาทอง โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าถึง โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ ม.มหิดล โดย เธอ และ ลัดดาวัลย์ โพธิวิจิตร รวมถึง อรณิช แก้วสุข แห่ง ศูนย์ผู้สูงอายุเขาทอง ได้ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง-ผู้นำชุมชน และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีวัดเขาทอง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนฯ เป็นที่ปรึกษา ริเริ่มโครงการ “เพื่อนสูงวัยห่วงใยใส่ใจเพื่อนถึงเรือนชาน (เพื่อนเยี่ยมเพื่อน)” ภายใต้โครงการพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมหิดลกับสังคม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.)
ในเรื่องส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและพัฒนาทักษะเพื่ออนาคต ตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ.2562 ก่อนเกิดวิกฤติ COVID-19 ด้วยแนวคิดที่อยากให้ผู้สูงวัยได้พบปะพูดคุย และให้กำลังใจผู้สูงวัยด้วยกัน รวมทั้งได้รับการดูแลแบบองค์รวม ผ่านการเยี่ยมเยียนสอบถามและประเมินภาวะสุขภาพ โดยทีมพยาบาล และผู้ดูแล (Caregiver) ที่ร่วมเดินทางไปเยี่ยมเยียนอย่างอบอุ่นถึงบ้าน ไม่เพียงเท่านั้น “โครงการเพื่อนเยี่ยมเพื่อน” เป็นการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมของ “ชมรมศูนย์ผู้สูงอายุตำบลเขาทอง” ที่ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัยขึ้นเป็นประจำทุกวันพุธ ซึ่งประกอบด้วยการออกกำลังกาย การร้องรำทำเพลง การเรียนรู้เรื่องสุขศึกษา และทักษะต่างๆ อาทิ งานหัตถกรรม ศิลปะ ฯลฯ และการรับประทานอาหารร่วมกัน เนื่องจากผู้สูงวัยของชมรมฯ บางรายมีอายุมาก และร่างกายไม่แข็งแรง จึงไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ตามวันที่ทางชมรมฯ จัดขึ้น
โครงการฯ จึงได้รวบรวมกลุ่มผู้สูงวัยในชมรมจำนวนประมาณครั้งละไม่เกิน 10 คน ออกเดินทางไปเยี่ยมบ้านเพื่อนผู้สูงวัยด้วยกันเดือนละครั้ง โดยได้อำนวยความสะดวกจัดยานพาหนะ และให้ผู้สูงวัยได้ร่วมร้องรำทำเพลงระหว่างการเดินทางด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน รวมทั้งจัดแม่ครัวร่วมเดินทางไปทำอาหารให้ทั้งผู้สูงวัย และเพื่อนผู้สูงวัยได้มีโอกาสรับประทานอาหารร่วมกัน ก่อนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เล่าสู่กันฟังกันในกลุ่มสมาชิกผู้สูงวัยที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย พร้อมให้ทีมวิจัยได้สรุปผลเก็บข้อมูลหลังเยี่ยมบ้านในแต่ละครั้ง
หัวหน้าทีมพยาบาล เล่าต่อไปว่า จากการดำเนินโครงการฯ จนแล้วเสร็จตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้สูงวัยได้เยี่ยมเยียนเพื่อนผู้สูงวัยด้วยกันเอง นอกจากได้เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้สูงวัยที่มีข้อจำกัดซึ่งทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่ชมรมฯ จัดเป็นประจำทุกวันพุธ ได้รับการดูแลสุขภาวะแบบองค์รวมอย่างยั่งยืนแล้ว ยังมีส่วนส่งเสริมให้ผู้สูงวัยของชมรมฯ ได้มองเห็นทั้ง “คุณค่าในตนเอง” และ “คุณค่าของการหยิบยื่นมิตรภาพให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน” จากการให้ผู้สูงอายุ ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จะทำให้ชุมชนเกิดความยั่งยืน ด้วยการสร้างสุขที่ทำให้ทั้งผู้สูงวัย และเพื่อนผู้สูงวัยเกิดปิติสุขไปด้วยกัน
นอกจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงวัยในชุมชนตำบลเขาทองแล้ว ทีมวิจัยยังได้มีการจัดเยี่ยมผู้สูงวัย ณ สถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว ตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ทีมวิจัยฯ ได้ใช้องค์ความรู้จากประสบการณ์ที่ได้จากการดูแล “ชุมชนเมืองแนวราบ” ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้นแบบ ในการต่อยอดขยายผลสู่ชุมชนบ้านเอื้ออาทร พุทธมณฑลสาย 5 จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็น “ชุมชนเมืองแนวตั้ง” ที่เป็นแหล่งพักอาศัยแบบคอนโดมีเนียม ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับ มหาวิทยาลัยมหิดล พื้นที่ศาลายา เพื่อแบ่งปันความสุข และส่งต่อแนวคิดของการส่งเสริม “ผู้สูงวัยเปี่ยมพลัง” ให้เกิดความยั่งยืนในสังคมไทยได้ต่อไปอีกด้วย