เฝ้าระวัง สถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
แฟ้มภาพ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงนี้สภาพอากาศจะมีแนวโน้มดีขึ้น แนะประชาชนกลุ่มเสี่ยงยังต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษ และขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) และสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก ตลอดจนจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการอันเกิดจากผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกี่ยวข้อง ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงนี้สภาพอากาศจะมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับในบางพื้นที่ของกรุงเทพฯและปริมณฑลมีฝนลงมาทำให้มลพิษในบรรยากาศเจือจางลง ณ ปัจจุบันยังไม่มีการรายงานถึงจำนวนของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น หรือพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญที่สัมพันธ์กับผลกระทบจาก PM 2.5 อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง รวมถึงมีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ยังต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษในช่วงนี้ โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ถุงลมโป่งพอง โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงผู้ป่วยด้วยโรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคผิวหนัง เพราะประชาชนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอาการกำเริบได้ง่ายจากการสูดดมฝุ่นขนาดเล็กดังกล่าว ขอให้พักผ่อนอยู่ในบ้าน ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการทรุดลง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมาดๆ ปิดจมูกและปาก ถ้าอยู่ในที่ที่มีฝุ่นหนาแน่นให้ใช้หน้ากากกรองฝุ่นหรือหาผ้าเปียกมาปิดจมูก
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนทั่วไป หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และการทำงานหนักที่ออกแรงมาก เพราะการหายใจเร็วในระหว่างการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายรับฝุ่นละอองเข้าไปมาก ขอให้ดื่มน้ำมากๆ และไม่สูบบุหรี่ในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก นอกจากนี้ควรช่วยกันลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดมลพิษ เช่น ไม่เผาขยะ โดยเฉพาะขยะที่เป็นสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมทั้งขยะทั่วไป และลดการใช้รถยนต์หรือใช้เท่าที่จำเป็น ที่สำคัญขอให้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิดและหมั่นสังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้รีบนำตัวส่งสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422