เฝ้าระวังอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์
สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เริ่มรณรงค์เพื่อเฝ้าระวังป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้แล้ว
ปีนี้ช่วงเฝ้าระวังอยู่ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 7 วันอันตรายประมาณนั้น ย้อนสถิติเปรียบเทียบ ตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2555 จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ ปี 53 รวม 3,516 ครั้ง ลดลงมาเป็น 3,215 ครั้ง ปีที่แล้วเหลือ 3,129 ครั้ง เฉลี่ยทั้ง 3 ปี 469 ครั้งต่อวัน คนบาดเจ็บ ก็ลดลง ปี 53 เจ็บ 3,802 คน ปี 54 เจ็บ 3,476 คน ปีที่แล้วเหลือ 3,320 คน เฉลี่ย 504 คนต่อวัน
สถิติคนเสียชีวิต ปี 53 ตาย 361 คน ปี 54 ตาย 271 คน แต่ปีที่แล้วเพิ่มเป็น 320 คน เฉลี่ย 45 คนต่อวัน ส่วนประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุ คือ จักรยานยนต์ เพิ่มขึ้นทุกปี ปี 53 ร้อยละ 80.03 ปี 54 ร้อยละ 81.12 ปีที่แล้ว ร้อยละ 82.14
จากการวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว พบว่า เมาสุรา เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมา ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด จักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ไม่สวมหมวกเป็นพฤติกรรมเสี่ยงสูงสุด ถนนนอกเขตทางหลวงแผ่นดิน ได้แก่ ถนนชุมชน/หมู่บ้าน และเทศบาล เป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ช่วงเวลา 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด กลุ่มวัยแรงงานเป็นกลุ่มที่บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด และผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่
สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมผู้ขับขี่เป็นส่วนใหญ่ โดยเกิดจากความประมาท และพบว่าหากบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจังในพื้นที่จะทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิตและบาดเจ็บลดลงมาก จึงได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดดำเนินการ ดังนี้ ควบคุมความเร็วโดยให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคุมการเมาสุราแล้วขับขี่ โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ที่ปลอดภัย โดยให้จังหวัดประกาศให้พื้นที่เล่นน้ำปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
การเล่นน้ำท้ายรถกระบะให้ปลอดภัย ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับบรรทุกคนท้ายกระบะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิด และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น การควบคุมการใช้รถจักรยานยนต์ หากผู้ขับขี่ทำผิดกฎหมายให้ตำรวจว่ากล่าวตักเตือนและยึดรถไว้ก่อน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
ควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามบริโภคบนทาง
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์