เผย! ไทยติดอันดับ 5 “พุงหลาม”
สธ.ชี้คนไทย 38 ล้านคน เมินออกกำลังกาย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผย ผลสำรวจพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของคนไทยล่าสุดในปี 2550 ผู้ที่มีอายุ 11 ปีขึ้นไป พบกว่า 38 ล้านคนไม่สนออกกำลังกาย ทำให้เกิดปัญหาพุงหลาม ติดอันดับ 5 ในประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิก พบผู้ไม่ออกกำลังกายป่วยนอนโรงพยาบาลมากกว่าผู้ออกกำลังกาย เร่งรณรงค์ฟื้นฟูแอโรบิก ทุกหมู่บ้านเริ่มตั้งแต่เดือนนี้ เป็นวัคซีนป้องกันโรคขนานเอก ลดการป่วยได้
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประกวดออกกำลังกายเต้นแอโรบิกของ จ.นนทบุรี เพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานผลการสำรวจในปี 2550 ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป ซึ่งมีทั้งหมด 55 ล้านคน พบว่า ในจำนวนนี้ออกกำลังกายร้อยละ 30 หรือประมาณ 16 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2547 เล็กน้อย ที่เหลืออีกกว่า 38 ล้านคน ไม่ได้ออกกำลังกาย
นายวิชาญกล่าวว่า ผลของการที่ประชาชนไทยใช้ชีวิตกินแล้วนั่งหรือนอน ไม่ได้ออกกำลังกายใดๆ ทำให้เกิดปัญหาอ้วน น้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 10 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่ม 14 ประเทศเอเชียแปซิฟิก พบว่ามากเป็นอันดับ 5 รองจากออสเตรเลีย มองโกเลีย วานูอาตู และฮ่องกง สังคมไทยในอดีตมีความเชื่อว่า ผู้ที่มีหุ่นอ้วนหรือท้วมแสดงถึงเป็นผู้ที่มีฐานะมีอันจะกิน หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า หุ่นอาเสี่ย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว วงการแพทย์ทั่วโลกวิจัยยืนยันตรงกันว่า ความอ้วนมีผลเสีย ทำให้เกิดโรคตามมาไม่ต่ำกว่า 8 โรค
นายวิชาญกล่าวต่อว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจะรณรงค์การออกกำลังกายครั้งใหญ่ทั่วประเทศ และปลูกฝังให้ติดเป็นนิสัย เนื่องจากมีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า การออกกำลังกายสามารถลดการป่วยลงได้ เป็นวัคซีนขนานเอกที่ทุกคนสามารถสร้างได้เองโดยไม่ต้องฉีดหรือกินยา โดยกรมอนามัยร่วมกับเอแบคโพล ได้รายงานผลการศึกษาความสัมพันธ์ของการออกกำลังกายกับการเจ็บป่วยในปี 2550 พบว่า ในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย มีอาการป่วย และต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลในรอบปีที่ผ่านมา มากกว่ากลุ่มที่ออกกำลังกายพอเพียงถึงร้อยละ 10 นอกจากนั้น ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายยังมีโรคประจำตัวและความดันสูงมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายพอเพียงถึงเกือบร้อยละ 50 และ 20 ตามลำดับ และหากออกกำลังกายติดต่อกันนานหลายเดือนจะยิ่งทำให้สุขภาพแข็งแรง ป่วยน้อยกว่าผู้ที่ออกกำลังกายน้อยกว่า ในการรณรงค์มีแผนจะให้ทุกหมู่บ้านตั้งเป็นชมรมออกกำลังกายสร้างสุขภาพตามกลุ่มอายุ ทั้งผู้ที่ยังไม่ป่วยและผู้ที่ป่วยแล้ว จะเริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ทางด้าน น.พ.สมพงษ์ บุญสืบชาติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า การจัดประกวดการออกกำลังกายเต้นแอโรบิกในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เริ่มในกลุ่มอายุ 15-45 ปี และกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป เนื่องจากคนวัยนี้เป็นวัยทำงาน และพื้นที่นนทบุรีเปรียบเสมือนเมืองคู่แฝดของกรุงเทพฯ เวลาส่วนใหญ่ของประชาชนมักใช้ไปกับการประกอบภารกิจประจำวัน มีเวลาสร้างสุขภาพน้อย จึงต้องรณรงค์ให้คนวัยทำงานจัดเวลาทำกิจกรรมออกกำลังกาย เพื่อสร้างสุขภาพควบคู่ด้วย อย่างน้อยเพียงวันละ 30 นาที อาทิตย์ละ 5 วัน ทั้งนี้ แนวโน้มการป่วยของประชาชนไทยและทั่วโลกขณะนี้ สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมเสี่ยง 3 เรื่องใหญ่ คือ กินอาหารที่มีไขมันมาก-กินผักน้อย การขาดการออกกำลังกาย และการสูบบุหรี่ เฉพาะการไม่ออกกำลังกายอย่างเดียว เป็นต้นเหตุให้คนทั่วโลกเสียชีวิตปีละเกือบ 2 ล้านคน โรคที่เกิดจากการไม่ออกกำลังกาย อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม
ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์
update: 23-07-51