เผยสูตร ‘ย๋งโต่วฟู’ เมนูอาหารเจที่ไม่จำเจ
กลับมาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเทศกาลกินเจปีนี้ที่มีถึง 2 ครั้ง ในปีเดียวกัน โดยมีระยะห่างกันประมาณเดือนเดียวเท่านั้น ไหนๆ เทศกาลดีๆ อย่างนี้มีถึงสองครั้งจึงนับว่าเป็นโอกาสพิเศษสุดๆ ดังนั้นศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้จัดกิจกรรม Workshop : Food Hero ตอน เมนูอิ่มบุญ ครบคุณค่า (ย๋งโต่วฟู) เพื่อเรียนรู้เทคนิคการปรุงอาหาร สำหรับการกินเจรอบสองที่กำลังเกิดอยู่ในเวลานี้
"เชฟอ้อม" หรือ อาจารย์เชิญพร จันทรสนามคณะหลักสูตรคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยว่า "ย๋งโต่วฟู" เป็นเมนูอาหารเจเพื่อสุขภาพของประเทศสิงคโปร์ ดัดแปลงมาจากการใช้เต้าหู้อ่อนมาผสมเครื่องปรุงรส ข้าวโพดหวาน เห็ดหอมและแครอท จากนั้นนำไปยัดไส้ผักต่างๆ เช่น กระเจี๊ยบเขียว เห็ดหอม พริกชี้ฟ้าแดง มะระ และ เต้าหู้ จากนั้นนำไปนึ่ง แล้วจึงทำน้ำราด ลักษณะคล้ายน้ำราดหน้า สามารถรับประทานได้หลายแบบ โดยรับประทานคู่กับน้ำจิ้ม หรือนำไปใส่เป็นเครื่องก๋วยเตี๋ยวก็ได้เช่นกัน
อาจารย์แววตา เอกชาวนา นักโภชนาด้านอาหาร เพื่อสุขภาพ บอกว่า คุณค่าทางโภชนาการของ "ย๋งโต่วฟู" เป็นอาหารจานเดียวรสอร่อย ที่มีส่วนผสมจากอาหารครบทั้งห้าหมู่ มีเส้นใยอาหารสูงไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอลเลย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันอาการท้องผูก นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโปรตีนจากพืช มีเกลือแร่วิตามินสำคัญหลากหลายชนิดที่ร่างกายต้องการ เช่น แคลเซียม วิตามินเอ ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม ซึ่งส่วนประกอบ ของเมนูนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย ได้แก่ "เต้าหู้อ่อน ญี่ปุ่น" มีส่วนผสมหลักจากถั่วเหลือง ซึ่งมีสารเลซิตินที่ช่วย ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ มีสารอาหารสำคัญคือโปรตีน และมีแคลเซียมสูงช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนอ่อนๆ จากพืชช่วยชะลอภาวะการหมดประจำเดือน ลดอาการร้อนวูบวาบของสตรีวัยทอง และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วย
"เก่ง เดอะวอยซ์ หรือนายธชย ประทุมวรรณนักร้องและแขกรับเชิญพิเศษที่มาร่วมปรุงเมนู เล่าว่า ปกติเป็น คนรับประทานมังสวิรัติและจะทานเจทุกปี นอกจากนี้ยังชอบดูแลสุขภาพ ส่วนเมนูที่ทำวันนี้มีความน่าสนใจ เพราะทำง่ายและได้คุณค่าทางอาหารมากมาย เชื่อว่าน่าจะเหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพ เพราะประกอบไปด้วยผักต่างๆ ที่สำคัญรสชาติดีและไม่มันเหมือนอาหารเจทั่วไป
น.ส.อ้อยใจ อุณคหบดี พนักงานบริษัทเอกชน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม บอกว่า กิจกรรมนี้มีประโยชน์และน่าสนใจมาก ปกติทานอาหารเจอยู่แล้ว และตอนนี้กำลังพยายามลดเนื้อสัตว์ เพราะรู้สึกว่ามีกรดในร่างกายมาก ซึ่งการได้มาร่วมกิจกรรมใน ครั้งนี้ ยังได้รับความรู้ในการเลือกทานอาหาร เพื่อป้องกันโรค อีกด้วย และ น.ส.จีระนันท์ จิตตวัฒนรัตน์ พนักงานบริษัทเอกชน ก็บอกว่า อยากจะลองทำอาหารเจทานเองบ้าง เพราะปกติอาหารเจ ตามท้องตลาดจะมีไขมันค่อนข้างเยอะ และมักทำจากแป้ง ซึ่งเมื่อทานไปมากๆ ก็อาจทำให้อ้วนได้ ประกอบกับคุณแม่เป็นโรคความดัน จึงสนใจสูตรอาหารเจเพื่อสุขภาพ ซึ่งเมนูที่นำมาสาธิตนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ซึ่งจะได้ลองนำกลับไปทำดูบ้าง
เมื่อ แฟนคลับ คนกินเจ มีความต้องการอยากได้ สูตร "ย๋งโต่วฟู" คอลัมน์ โลกสดใสกายสุขสันต์พร้อมจัดให้ ดังต่อไปนี้ค่ะ..
ส่วนผสมไส้ เต้าหู้อ่อนญี่ปุ่น 1 ก้อน ข้าวโพดหวาน ฝานต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ แครอทหั่นเต๋าเล็ก 3 ช้อนโต๊ะ เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนิ่มหั่นเต๋าเล็ก 3 ช้อนโต๊ะ แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา พริกไทย 1/4 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมน้ำราด น้ำสต๊อกผัก 1 ถ้วยตวง แป้งข้าวมัน 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1/4 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วดำ 1/4 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมน้ำจิ้ม เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดงเม็ดใหญ่ 1/2 เม็ด พริกชี้ฟ้าแดงจินดา 2 เม็ด ขิงแก่สับ 2 ช้อนชา ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ผักสำหรับสอดไส้ กระเจี๊ยบเขียวผ่าตรงกลาง พริกชี้ฟ้าแดงผ่าตรงกลางเอาเม็ดออก เห็ดหอมสดผ่าตรงกลาง มะระหั่นแว่นเอาเมล็ดออก เต้าหู้ญี่ปุ่นตัดสามเหลี่ยมผ่าตรงกลาง
ขั้นตอนการเตรียม 1.ทำส่วนผสมของไส้ทั้งหมดผสมนวดเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย เกลือป่น พริกไทย และซีอิ้วขาว 2.นำส่วนผสมใส่ที่ผสมเสร็จแล้วใส่ถุงแล้วตัดปลายถุง เพื่อง่ายต่อการยัดไส้ 3.นำผักและเต้าหู้ที่ผ่าไส้ตรงกลางแล้ว นำมาบรรจุไส้ให้เต็ม 4.จากนั้นนำไปนึ่งน้ำเดือดจัด จนกระทั่งสุกประมาณ 5 นาที ตักใส่จานพักไว้ และ 5.จัดเสิร์ฟรับประทานคู่กับน้ำจิ้ม
วิธีทำน้ำราด นำส่วนผสมทั้งหมดผสมให้เข้ากันยกเว้นแป้งข้าวโพด ตั้งไฟให้เดือด นำแป้งข้าวโพดผสมน้ำเล็กน้อย คนให้เข้ากันพอข้นยกลง นำไปราดบนผักและเต้าหู้ยัดไส้
วิธีทำน้ำจิ้ม 1.นำพริกชี้ฟ้าแดงและพริกชี้ฟ้าแดงจินดามาผ่าตรงกลางเม็ดออกให้หมด หั่นท่อน แล้วนำไปโขลก แล้วจึง นำขิงลงไปโขลกให้ละเอียด หรือสับจนกระทั่งละเอียด 2.จากนั้น นำส่วนผสมของน้ำจิ้มทั้งหมดใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ใช้รับประทาน คู่กับผักและเต้าหู้ยัดไส้
ทราบวิธีทำกันพร้อมหน้าแล้วใช่ไหมคะ ลงมือพิสูจน์ฝีมือได้ทันทีเลยค่ะ
ที่มา: เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต