เผยกลยุทธ์แยบยลลานเบียร์ดึงวัยรุ่น
ลานเบียร์ที่เริ่มเปิดละลานตาตามศูนย์การค้าต่างๆ ในเดือนพฤศจิกายน เรื่อยไปจนถึงธันวาคม เดือนแห่งการเฉลิมฉลอง กลายเป็นกิจกรรมประจำปีของกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการกระตุ้นการดื่มเหล้าเบียร์ เพิ่มยอดขายของบริษัทน้ำเมา อย่างไรก็ตาม ทุกปีก็พบลานเบียร์สารพัดยี่ห้อยังไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
จากการติดตามปัญหาอย่างต่อเนื่อง นายวัชรา บัวทอง ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ มีมาตรการเฝ้าระวังการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ผ่านมา เราได้ร่วมทีมตรวจลานเบียร์ที่เปิดบริเวณศูนย์การค้าชื่อดังกับ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า ผู้ประกอบการไม่เคารพกฎกติกาและกฎหมาย เพราะไม่มีความเข้มงวด ในการตรวจสอบอายุของผู้บริโภคที่เข้าไปใช้บริการ ขายเบียร์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี นอกจากนี้ ยังกังวลเมื่อเห็นผู้ปกครองนักดื่ม นำบุตรหลานเข้าไปในลานเบียร์ เห็นได้ชัดว่ามีเยาวชนแต่งกายชุดนิสิตนักศึกษาเข้าไปนั่งดื่ม หรือหากมากันเป็นกลุ่ม เจ้าหน้าที่บางคนตรวจเพียงคนแรกเท่านั้น นี่อาจเป็นช่องโหว่ทำให้เยาวชนดื่มได้
“การแก้ปัญหาลานเบียร์ ต้องให้ผู้ประกอบการตระหนักมากขึ้น ถึงผลกระทบด้านสังคมและด้านสุขภาพมากกว่าจะมองเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว บริษัทเหล้า-เบียร์ควรให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดกับเด็กไทยให้มากกว่านี้ ลานเบียร์ไม่ใช่เทศกาลหรืองานประเพณี แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เวลานี้ลานเบียร์ต่างๆ หาวิธีดึงดูดโน้มน้าววัยรุ่นทุกทาง ทั้งจัดคอนเสิร์ต การโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต ทั้งทางตรงและทางอ้อม เน้นใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ นี่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ แม้จะมีกฎหมายแต่ก็ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหามาตรการป้องกันหรือกำหนดนโยบายที่ชัดเจนกว่านี้” ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เผยกลยุทธ์ของบริษัทเหล้า-เบียร์พร้อมให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เครือข่ายฯ กับมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชนกำลังเร่งเก็บข้อมูลการกระทำผิดของธุรกิจแอลกอฮอล์ผ่านสื่อออนไลน์ พบการกระทำผิดของสินค้าหลายยี่ห้อ หากรายงานฉบับนี้เสร็จจะตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้
นายวัชรา ได้กล่าวอีกว่า จากการติดตามปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาสุรานี้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่ตลอดเวลา เห็นว่าจุดอ่อนของประเทศไทย คือการบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้น มาตรการที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปคือ การเสริมสร้างการรับรู้ภายในกลุ่มเยาวชน ทั้งคนที่ไม่ดื่ม น้องๆ เยาวชนที่ขับเคลื่อนปัญหาด้านสุรา ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากสุราไปแล้ว รวมถึงเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะเป็นการป้องกันเด็กและเยาวชนที่ยังรู้ไม่เท่าทันกลยุทธ์ธุรกิจบาปนี้
นอกจากนั้น ทางเครือข่ายฯ ยังได้เรียกร้องเรื่องมาตรการคุมเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษา โดยให้คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ มี พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ เป็นประธาน ผลักดันมาตรการออกมาควบคุม แต่ก็ยังไม่ออกมา หากมาตรการดังกล่าวออกมา จะให้อำนาจสถาบันการศึกษาควบคุมร้านเหล้าที่รายล้อมมหาวิทยาลัย เวลานี้ร้านเหล้าปั่นผิดแค่เรื่องดัดแปลงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น ก็ทำให้มีจำนวนร้านเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งก็ทำให้เกิดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ง่ายขึ้น รวมถึงเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ผลจากการเมาจนครองสติไม่ได้
อีกประเด็น ปัญหาสุราที่ทางเครือข่ายฯ พบนั่นคือ ธุรกิจนี้เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ในผู้หญิงและเด็ก เน้นทำการตลาดกับกลุ่มนี้โดยเฉพาะ เราจึงร่วมขับเคลื่อนงานกับมูลนิธิเพื่อนหญิง สร้างการรับรู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศระหว่างชายและหญิง เพื่อลดปัญหาความรุนแรงจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ผ่านมาได้จัดอบรมและเสวนาให้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ
ขณะเดียวกัน ทางเครือข่ายฯ ได้ทำการสำรวจปัญหาทำแท้งในกลุ่มเยาวชน แต่ผลการศึกษายังไม่เสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เคยสำรวจพบว่า หญิงท้องจากการเมาจนต้องทำแท้งมีจำนวนมาก รวมทั้งชายที่ทำหญิงท้องเพราะเมา ก็มีสถิติแล้ว ซึ่งในวันนี้ (26 พฤศจิกายน 2553) ทางเครือข่ายฯ จะมีการเสวนาเรื่อง “ท้อง แท้ง ทิ้ง” ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. เพื่อตีแผ่ข้อมูลความเป็นจริงถึงปัญหาสุรา ที่เชื่อมโยงเรื่องทำแท้งที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทยขณะนี้ สองพันศพเป็นเรื่องสะเทือนใจจริงๆ และทุกฝ่ายต้องร่วมกันจัดการปัญหานี้เช่นเดียวกับปัญหาสุรา
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update : 26-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน
