เปิดไอเดียสร้างสรรค์ ให้เป็นผลิตภัณฑ์สร้างสุข
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้าออนไลน์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ
เมื่อเดือนที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ หรือสสส. ได้ทำกิจกรรม ร่วมกับนิตยสารอะเดย์ จัดประกวดโครงการ "ขอเปลี่ยน Design Contest" เปลี่ยน ไอเดียสร้างสรรค์ เป็นผลิตภัณฑ์สร้างสุข โดยการให้เยาวชนไทย ร่วมออกแบบของใช้ ที่เมื่อนำไปใช้แล้วจะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพดีขึ้น
จากภายในงานนี้ ทำให้เราได้เห็นว่า "ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กไทย"มีกันไม่น้อยทีเดียว ขอเพียงให้พวกเขาได้มีสนามและโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็นนั้นให้ออกมาปรากฏสู่สังคม สิ่งดีงามหลายอย่างก็จะพรั่งพรูออกมาจากสมองของพวกเขา
บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก โดยได้รับความสนใจจากเยาวชนทั่วประเทศกว่า 30 ทีม ที่ร่วมส่งผลงานร่วมเข้าประกวด และหลังจากการตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปรากฏว่ามีผู้ผ่านเข้ารอบ 9 ทีม ได้แก่ ทีม Smaug Studio เจ้าของผลงาน MUMA Card Game หรือ การ์ดไพ่ออกกำลังกาย แสนสนุก ได้รับรางวัลชนะเลิศพ่วงด้วยป๊อปปูลาร์โหวตไปอีกหนึ่งรางวัล
ทีม Smaug Studio เป็นนักศึกษาจาก สถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประกอบด้วย น.ส.ผณินทร เรืองแววมณี, น.ส.ชลิตดา มูลทรัพย์, น.ส.กมลวรรณ เกิดดี, น.ส.ณัฐวลี เมล์ลุสกุล ซึ่งการแข่งขันบนเวทีนี้ ไม่ใช่ตัดสินกันแค่เพียงการออกแบบให้มีความสวยงาม และมีประโยชน์ ต่อสุขภาพตามคอนเซ็ปต์แต่เพียงในกระดาษเท่านั้น แต่การออกแบบ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างและใช้งานได้จริงด้วย
น.ส.ผณินทร เล่าถึงแนวคิดในการออกแบบว่า พวกเราอยากให้ทุกคนได้มาออกกำลังกายร่วมกัน เกมไพ่ MUMA ตัวนี้ จึงเหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยจูงใจและสร้างความเพลิดเพลินนั่นเอง โดยลักษณะไพ่ ใน 1 สำรับมีจำนวน 56 ใบ จำแนกเป็นท่าในการออกกำลังกายต่างๆ 12 ท่า จำนวนครั้ง เวลาที่ต้องออกกำลัง ของผู้เล่น เช่น เมื่อผู้เล่นวางไพ่ share ผู้เล่นคนนั้นมีสิทธิหารครึ่ง จำนวนครั้งและเวลา ที่ต้องออกกำลังกายกับผู้เล่นคนถัดไป สำหรับในอนาคตอยากจะพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่น เพื่อให้สามารถเล่นผ่านโทรศัพท์มือถือและสื่อสังคมออนไลน์ได้ โดยพวกเขามีความเห็นตรงกันว่า รู้สึกดีใจที่เข้ามาถึงตรงนี้และประทับใจโครงการของ สสส. ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้นำเสนอ ผลงานของตัวเอง ที่สำคัญได้รับคำแนะนำดีๆ จากคณะกรรมการทำให้พวกเราพัฒนาตัวเองขึ้นมาก
สำหรับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 2 เป็นของทีม Every Bench กับผลงาน "ม้านั่งสำหรับออกกำลังกาย" โดยทั้งหมดเป็นนักศึกษาจาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประกอบด้วย นายกนกพล ยกชู, น.ส.บุญมี สุขประเสริฐชัย, นายอธิการ เปียซื่อ, นายพีรภัทร รัตนพันธุ์ และนายนาวี ธูปแพ โดยสร้างสรรค์ผลงานภายใต้ธีมที่ว่า "เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านก็ใช้เป็นเครื่องออกกำลังกายได้"
นายกนกพล ตัวแทนของทีม อธิบายว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีจุดเด่นตรงเส้นยางยืดที่ใช้ดึงออกกำลัง โดยนำมาติดรวมเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ม้านั่งที่พวกเขาชอบทำอยู่แล้ว จึงออกมาเป็นไอเดียนี้ ขณะที่ท่าในการออกกำลังกายนั้น จะเน้นบริหารส่วนแขนและ หัวไหล่ เพราะอาศัยการดึงเป็นหลัก ส่วนในอนาคตอยากออกแบบให้มีความสวยงามและทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง
ส่วนทีมอันดับที่ 3 เป็นของ "ทีมมหาลัยวัวชน" เป็นผลงานกระเป๋าบอลบีบ "Farmily" ผลิตภัณฑ์สุขภาวะที่ต้องการสื่อถึงสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม และความอบอุ่นเป็นครอบครัว สมาชิก ประกอบด้วย นายเปี่ยมทรัพย์ พ่วงกลั่น, น.ส.ณัฏฐา เลิศรัตนรังษี และนายรังสิมันตุ์ สุพรรณกาล เป็นนักศึกษา จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยนายเปี่ยมทรัพย์ เล่าแนวคิด ให้ฟังว่า ต้องการทำให้การออกกำลังกายทำได้ทุกที่ทุกเวลา โดยลูกบอลบีบจะช่วยบริหารมือป้องกันอาการนิ้วล็อก แก้อาการ ปวดเมื่อยคอและไหล่ ส่วนยางยืดก็สามารถใช้ออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือ พกพาสะดวกและรูปลักษณ์ไม่เหมือนอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่นที่มีอยู่แล้วในสังคม และสุดท้ายพวกเขาก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่างไรก็ตามจะนำทักษะมุมมองในการออกแบบที่ได้จากโครงการของ สสส. ไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ปิดท้ายกันที่ นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผอ.ศูนย์ เรียนรู้สุขภาวะ สสส. และคณะกรรมการตัดสินผลงาน แสดง ทัศนะว่า "ขอเปลี่ยน Design Contest" ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เห็นผลงานของเยาวชนไทย ที่ช่วยส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นในรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจในการปรับพฤติกรรมของคนไทยสู่การมีชีวิตที่มีสุขภาพดี ซึ่งไอเดียดีๆ เหล่านี้ บางส่วนจะถูกคัดเลือกเพื่อนำไปพัฒนา และผลิตเป็นสินค้าจริง เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ ต่อไป
เชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ฝีมือเยาวชนไทย ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเหล่านี้ นอกจากจะเป็นการ กระตุ้นให้เยาวชนไทยแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น จะยังช่วยสร้างประโยชน์ด้านสุขภาวะให้กับสังคมไทยมากขึ้นอีกด้วย