เปิดโครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้ ป้องกันการจมน้ำ

ที่มา : เว็บไซต์มติชนออนไลน์


เปิดโครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้ ป้องกันการจมน้ำ thaihealth


แฟ้มภาพ


ในแต่ละปีมีเด็กจำนวนมากเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จากสาเหตุการจมน้ำ ซึ่งทักษะการว่ายน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรได้รับการส่งเสริม ทางกรมพลศึกษาจึงเปิดโครงการเด็กไทยว่ายน้ำได้ เพื่อป้องกันปัญหาเด็กจมน้ำ


ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เปิดเผยว่า กรมพลศึกษา จะจัดโครงการ "เด็กไทยว่ายน้ำได้" ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้เด็ก เยาวชน มีทักษะการว่ายน้ำเบื้องต้นที่ถูกต้อง สามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และรู้หลักการใช้อุปกรณ์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางน้ำ ซึ่งจะเป็นการลดอัตราการจมน้ำของประชากรเด็ก เยาวชนในอนาคต อีกทั้งยังสอดคล้องกับแผน กลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสีขาวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ.2564-2565 ได้วางวิสัยทัศน์ให้ภาคการท่องเที่ยวมีบทบาทนำในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยมีประเด็นการขับเคลื่อนสำคัญที่เกี่ยวข้อง คือ ประเด็นที่ 4 การลดการใช้ทรัพยากรและของเหลือทิ้ง


กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดโครงการ "เด็กไทยว่ายน้ำได้" ฝึกทักษะว่ายน้ำเพื่อป้องกันการจมน้ำ ให้กับเด็ก เยาวชน อายุตั้งแต่ 6-14 ปี ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค อีก 37 จังหวัด โดยในพื้นที่ส่วนกลาง จะจัดที่สระว่ายน้ำวิสุทธารมณ์ สนามกีฬาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน-19 ธันวาคม 2564 (เรียนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์) มีรอบเรียนให้เลือก 3 รอบ รอบแรก เวลา 08.00-10.00 น. รับจำนวน 84 คน, รอบ 2 10.00-12.00 น. รับจำนวน 72 คน, รอบ 3 14.00-16.00 น. รับจำนวน 84 คน   ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องเอาอุปกรณ์ในการเรียนมาเอง ประกอบด้วย ชุดว่ายน้ำ แว่นตา และหมวก (สำหรับเด็กผู้หญิง) โดยสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ -วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ได้ทาง https://gms.dpe.go.th/thaicanswim/dpesummer/indexSummer.php หรือดูรายรายเอียดเพิ่มเติมที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา


สำหรับส่วนภูมิภาคอีก 37 จังหวัด กรมพลศึกษา จะคัดเลือกจังหวัดที่จะดำเนินการ โดยจะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ คือ 1) จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงสูงตามเกณฑ์ ที่กองป้องกันการบาดเจ็บกำหนด มีจำนวน 35 จังหวัดและพื้นที่เสี่ยงปานกลางอีกจำนวน 2 จังหวัด และ 2) ความพร้อม ของจังหวัดในการดำเนินกิจกรรม โดยสามารถติดตามรายละเอียดไดทางเว็บไซต์กรมพลศึกษา

Shares:
QR Code :
QR Code