เปิดศูนย์ป้องกัน 7 วันปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่
ที่มา : ข่าวสด
แฟ้มภาพ
เปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนปีใหม่ เน้นย้ำทุกจว.ให้จำนวนผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์ จับตาเรดโซน 34 อำเภอสถิติอุบัติเหตุสูง ตร.เผยบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นโดยเฉพาะผิดใน 10 ข้อหาหลัก หวังลดเจ็บ-ตายทั้งบนถนนสายหลักและรอง ดูแลจุดเคานต์ดาวน์ด้วย โคราชเคลียร์ทางเตรียมพร้อมรับมือรถทะลัก แนะ 4 เส้นทางเลี่ยงผ่านโคราชสู่อีสานตอนใน
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (คปภ.) เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 (ศปถ.) เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยในปีนี้ ศปถ.จะควบคุมเข้มข้นช่วง 7 วัน ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.62-2 ม.ค.63 โดยจะรณรงค์ให้ประชาชนขับขี่ปลอดภัยภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เพื่อให้ประชาชนเดินทางสัญจรอย่างปลอดภัยและมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่
นายมณฑล กล่าวต่อว่า รัฐบาลเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 ใน 7 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ มาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ มาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และมาตรการ ด้านการบริหารจัดการ ซึ่งทุกจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ เพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการที่สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ และได้สั่งการให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการการทำงานร่วมกับ จิตอาสาในทุกระดับ เพื่อเป็นกำลังเสริม ในการปฏิบัติงานสร้างความปลอดภัยทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่
ทั้งนี้ ศปถ.จะสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเข้มข้นในช่วง 7 วันแห่งความปลอดภัย มุ่งเป้าปิดจุดเสี่ยงในพื้นที่สถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง ระดับความเสี่ยงสีแดงรวม 34 อำเภอ และระดับความเสี่ยงสีส้มรวม 138 อำเภอ โดยจะยังคงเน้นย้ำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์ ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่จะเดินทางใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรเพื่อความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งขอให้ศึกษาเส้นทาง ตรวจเช็กสภาพรถ เครื่องยนต์ ก่อนออกเดินทาง เพราะหากเครื่องยนต์ สภาพรถมีปัญหา จะทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้น