เปลี่ยนวิถีชีวิตลดเสี่ยงมะเร็งได้ 1 ใน 3

ผู้เชี่ยวชาญแนะเลือกอาหาร ขยับกาย ลดรอบเอว ลดแอลกอฮอล์

 

            หนังสือพิมพ์เดอะเดลี่เมล์ฉบับออนไลน์ของอังกฤษรายโดยอ้างคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งว่าการเลือกรับประทานอาหารร่วมกับการเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตสามารถช่วยให้ลดความเสี่ยงในการเป็นป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลงได้มากถึง 1 ใน 3 ส่วน

 

            ซึ่งหากทำได้แค่ประเทศอังกฤษประเทศเดียวก็จะสามารถรักษาชีวิตคนได้ราว ๆ 95,000 คนต่อปี ซึ่งคนจำนวนนี้หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันชัด ๆ ว่ามากน้อยแค่ไหนผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าก็มากพอที่จะทำให้สนามเวมบลีย์เต็มได้เลยทีเดียว

 

            ศาสตราจารย์มาร์ติน ไวส์แมน จากกองทุนวิจัยมะเร็งโลกกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของรอบเอวของคนโดยทั่ว ๆ ไป การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากขึ้นเป็น 2 เท่าในประเทศอังกฤษ การขาดการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่ให้โทษแก่ร่างกายเป็นปัจจัยกระตุ้นการเป็นโรคมะเร็งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากอยู่ขณะนี้

 

            ยกตัวอย่างเช่น จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มดลูก พบว่าคนที่เป็นโรคอ้วนมักมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดนี้สูงกว่าคนน้ำหนักตัวปกติถึง 2 เท่าตัว และสิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งประการหนึ่งเกี่ยวกับมะเร็งมดลูกคืออัตราการป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้ที่พบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 20% หรือ 1 ใน 5 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่โรคมะเร็งที่ไตซึ่งก็มีความเกี่ยวเนื่องกับปัญหาโรคอ้วนด้วยเช่นกัน พบว่าเพิ่มสูงขึ้น 14 % ในช่วงเวลาเดียวกัน

 

            สำหรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งนั้นได้แก่ การรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที และรับประทานผักและผลไม้ และอาหารที่กากใยสูง

 

            ทั้งนี้กองทุนวิจัยมะเร็งโลกประเมินว่าจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งที่สามารถป้องกันได้กำลังเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวกับกระแสความเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหารอบเอวที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดการออกกำลังกาย และปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์

 

            นอกจากนี้กองทุนวิจัยมะเร็งยังระบุด้วยว่าจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ปากที่มีความเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น 1 ใน  4 หรือ 25 % ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สำหรับจำนวนผู้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ นั้น เฉพาะในประเทศอังกฤษเองก็พบว่ามีมากถึง 285,000 คนต่อปี ในจำนวนนี้ 155,000 รายเสียชีวิต

 

            “นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้คนหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองซึ่งสามารถทำกันได้ง่าย ๆ กันให้มากขึ้นกว่าเดิม คนเราทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งของตัวเองได้จริง” ศาสตราจารย์ไวส์แมนกล่าว

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.

 

 

 

update 15-05-51