เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลังทำความดี
ที่มา : เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
วันที่ 13 ต.ค. 2559 วันแห่งความเสียใจของคนไทยทั้งชาติหลังรับรู้ข่าวเศร้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ความสูญเสียครั้งนี้ยิ่งใหญ่อย่างหาที่สุดมิได้ แต่ท่ามกลางความเสียใจพสกนิกรชาวไทยยังยึดมั่นสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์
นับเวลาแห่งความสูญเสียไปถึง 100 วัน หลายหน่วยงานจัดกิจกรรมแสดงความอาลัย รวมทั้งกิจกรรมจิตอาสาทำความดีตอบแทนสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เห็นว่าห้วงเวลาสำคัญควรจะบันทึกเป็นวาระสำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงเกิดโครง การแรงบันดาลใจการสร้างสุขภาวะจากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อบันทึกเรื่องราวความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อพระองค์ และถ่ายทอดเรื่องราวการสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างเสริมสุขภาพและสร้างพลังในการทำความดีตามรอยพระบาท
"ในช่วง 100 วันแรกหลังการสวรรคต นับเป็นปฏิกิริยาทางสังคม ซึ่งเกิดขึ้นแล้วจะไม่มีการเกิดซ้ำอีก เรื่องราวที่เกิดขึ้นหากไม่มีการจัดเก็บรวบรวมบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวให้เป็นระบบ ก็จะไม่มีหลักฐานสะท้อนถึงพระบารมีของพระองค์" ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บอกถึงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
ทั้งนี้การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลช่วง 100 วันแรก ได้จัดทำออกมาเป็นสื่อหลากหลายแบบ จะช่วยให้เกิดการบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า กลายเป็นพงศาวดารฉบับประชาชน รวมถึงจะกลายเป็นสื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ทำความดีตามรอยพระบาทของพระองค์ด้วย
สำหรับการบันทึกเหตุการณ์ช่วง 100 วันการเสด็จสวรรคตนั้น ได้จัดทำเป็นชุดหนังสือจำนวน 4 ชิ้น ประกอบด้วย 1.หนังสือภาพ "100 วัน เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง" จำนวน 300 ภาพ ที่คัดเลือกมาจากภาพถ่ายที่มีคุณค่าจำนวนมากกว่า 40,000 ภาพ โดยช่างภาพชั้นนำของประเทศ 5 ท่าน
หนังสือบันทึกคำจงรัก ซึ่งเป็นการรวบรวมบทกวีที่แสดงความรู้สึก ความรำลึกถึงต่อการสวรรคตของพระองค์ โดยนักกวีต่าง ๆ ทั่วประเทศทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นในช่วง 100 วันแรกของการสวรรคต
ซีดีและดีวีดี จำนวน 3 แผ่น 3 โครงการเพื่อพ่อ ประกอบด้วย ซีดีภาพ "100 วันเปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง" จำนวน 1,000 ภาพ ดีวีดีประกวดหนังสั้น "อาชีวะทำดีเพื่อพ่อ" จำนวน 98 เรื่อง และดีวีดีแต่งเพลงเพื่อพ่อจำนวน 60 เพลง จากกลุ่มเยาวชนโคตรอินดี้ ร่วมกับศิลปินอินดี้ทั่วประเทศที่สร้างสรรค์บทเพลงที่แต่งขึ้นมาจากใจเพื่อพระองค์
นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ หัวหน้าโครงการแรงบันดาลใจการสร้างสุขภาวะจากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชกรณียกิจที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรในทุกด้าน ในด้านสุขภาพของประชาชนงานทางการแพทย์และสาธารณสุขเป็นพระราชกรณียกิจที่ทรง ให้ความสำคัญตั้งแต่แรกที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ ทั้งการสนับสนุนสมาคม ต่อต้านวัณโรคและการผลิตวัคซีนบีซีจี การก่อตั้งราชประชาสมาสัย เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อน การควบคุมและรักษาโรคโปลิโอ การแก้ไขปัญหาการขาดสารไอโอดีน
ทั้งยังได้ทรงริเริ่มสร้างภาพยนตร์ส่วนพระองค์ พระราชทานจัดฉายเพื่อหารายได้มาใช้สร้างอาคารและโรงพยาบาลหลายแห่ง ทรงจัดให้มีหน่วยแพทย์พระราชทาน งานทันตกรรมเคลื่อนที่ โครงการศัลยแพทย์อาสา รวมทั้งทรงรับผู้เจ็บป่วยที่ยากไร้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จากการวิเคราะห์โครงการวิจัยของประชาชนได้แรงบันดาลใจเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะ และนำแบบอย่างทั้งในเรื่องพระอัจฉริยภาพ พระราชดำรัส และโครงการในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต การทำงาน โดยส่วนใหญ่นำเรื่อง ความพอเพียง ความอดทน ความซื่อสัตย์ และ ความรับผิดชอบ มาใช้ในชีวิตประจำวัน
"ชุดหนังสือดังกล่าวจะทำให้ทุกคนเห็นว่า คนไทยรักพระองค์มากเพียงใด และสามารถเปลี่ยนความโทมนัสมาเป็นพลังในการทำความดีได้มากเพียงไร" นพ.โกมาตร กล่าว
ผลงาน "100 วัน เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง" สามารถรับชมได้ที่ เว็บไซต์ สสส. www.thaihealth.or.th ซึ่งรวบรวมภาพประวัติศาสตร์ เรื่องเล่าความประทับใจ และวิดีทัศน์ต่าง ๆ อีกมากมาย หรือชมนิทรรศการภาพถ่าย เปลี่ยนโทมนัสเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ในวันจันทร์ที่ 25 ก.ย. พ.ศ. 2560 นี้เป็นต้นไป