เทศกาลแห่งความสุข ‘สงกรานต์’ สนุกทั่วไทย
‘เทศกาลสงกรานต์’ ช่วงเวลาแห่งความสุขที่เชื่อว่าคนไทยทุกคนต่างก็รอคอย น่าดีใจว่าปีนี้มีพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ…
ถนนตระกูลข้าว 40 ถนน และพื้นที่เล่นน้ำ 100 แห่งใหญ่ใน 77 จังหวัด รวมไปถึงถนนหรือซอยเล็กๆ อีกกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ นั่นคือตัวเลขของพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดเหล้าในปีนี้ "สงกรานต์ปลอดภัยกับถนนปลอดเหล้าทั่วไทย" ลองไปดูกันค่ะว่ามีที่ไหนปลอดภัยยังไง และใครใกล้ที่ไหน ก็ไปเที่ยวที่นั่นกันได้เลยค่ะ…
สนุกสนาน สามัคคี มีน้ำใจ “โอเค ขอนแก่น”
เริ่มต้นกันที่จังหวัดขอนแก่นที่นับเป็นสุดยอดสงกรานต์อีสาน พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าต้นแบบ และเป็นแห่งแรกในประเทศไทย นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่นเปิดเผยว่า ปีนี้มี 2 งานคือ เทศกาลดอกคูนเสียงแคน ซึ่งจัดที่ริมบึงแก่นนคร เป็นพื้นที่วัฒนธรรม งานประเพณี มีความสนุกสนานอย่างเต็มที่ในรูปแบบพื้นบ้านอีสาน และจัดมหกรรมเอกลักษณ์ไทยหัวใจ 4 ภาค โดยเอารูปแบบการแสดงของทุกภาคในประเทศไทยไปร่วมแสดงที่ริมบึงแก่นนคร ระหว่างวันที่ 5 – 12 เมษายน มีการจำหน่ายสินค้า มีการละเล่น มีวงดนตรี มีรูปแบบวัฒนธรรม หากใครต้องการสัมผัสรูปแบบวัฒนธรรมอีสานต้องมาที่นี่
“ส่วนถนนข้าวเหนียวจะเริ่มงานในวันที่ 12 เมษายน ส่วนนี้เป็นพื้นที่วัฒนธรรมร่วมสมัย มีการแสดงการละเล่นของกลุ่มเป้าหมายที่ร่วมสมัย เวทีการแสดงกว่า 10 เวที แต่สำคัญกว่านั้นก็คือ ปีนี้ถนนข้าวเหนียวครบรอบ 13 ปี และเป็นสงกรานต์ปลอดเหล้าปีที่ 11 ถึงแม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อถนนข้าวเหนียวปลอดเหล้า 100 เปอร์เซ็น ก็ไม่มีการทะเลาะวิวาทแน่นอนเช่นกัน” นายกเทศมนตรีฯ ยืนยัน
สำหรับทีเด็ดคือทุกคืนวันที่ 13 – 14 – 15 ต้องไม่พลาด เป็นพื้นที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศ โดยผู้คนเรือนแสนในถนนข้าวเหนียวจะพร้อมใจกันเล่นคลื่นมนุษย์ ไม่มีการแบ่งเขา ไม่มีการแบ่งเรา ไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ และปีนี้เพิ่มพื้นที่พิเศษ เป็นคลื่นมนุษย์ใต้อุโมงค์น้ำ มีแสงเสียงเต็มที่ นอกจากนั้นยังมีการเนรมิตเกาะรอบศาลหลักเมืองเป็นเกาะแห่งวัฒนธรรม ปีนี้มีมหกรรมสินไชยตบประทายโลก เป็นกองทรายซึ่งมีความวิจิตรบรรจงสวยงามในระดับโลก ที่เล่าถึงวรรณกรรมพื้นบ้านลุ่มแม่น้ำโขงแฝงนัยยะถึงความสามัคคี พร้อมกิจกรรมที่หลากหลายรอต้อนรับอีกมากมาย
"ถนนข้าวเม่า" แห่งเมืองตักสิลานคร
ขยับมาใกล้ๆ ที่จังหวัดมหาสารคามมี “ถนนข้าวเม่า” ที่จัดกิจกรรมสงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า เป็นปีที่ 7 แล้ว โดย นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมหาสารคามเล่าว่า ปีนี้ถนนข้าวเม่ามีการจัดงานที่เน้นในเรื่องการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประยุกต์ความเป็นอีสาน โดยมีลานกิจกรรมการละเล่นพื้นเมือง กีฬาพื้นบ้าน เช่น สะบ้า เดินโทกเทก ชักเย่อ ให้ปราชญ์ชาวบ้านและคนที่อยู่ในเมืองมหาสารคามได้มาฟื้นฟูประเพณีในอดีตที่งดงามให้ลูกหลานได้ซึมซับความเป็นอีสาน
“ตลอด 7 ปีที่ไม่มีแอลกกอฮล์ในพื้นที่ ถนนข้าวเม่าได้รับความนิยมมาก และถือเป็นพื้นที่ต้นแบบที่พี่น้องประชาชนได้มาร่วมเล่นสงกรานต์ด้วยกติกามารยาทที่ดี ช่วยกันรักษาศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม และคนในชุมชนก็รู้สึกปลอดภัย สบายใจเมื่อลูกหลานมาเล่นน้ำที่นี่ และเด็กเยาวชนก็ถือว่าพวกเขาเป็นเจ้าของพื้นที่และช่วยกันรณรงค์ ดูแลไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎกติกา” รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมหาสารคามเล่า
สงกรานต์ ร้อยเอ็ดม่วนซื่นเมืองเกินร้อย
เลยมาอีกนิดที่ “ถนนข้าวหอมมะลิ” จังหวัดร้อยเอ็ด โดย นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เน้นย้ำว่า การจัดงานสงกรานต์นอกจากทุกคนจะต้องมีความสุขแล้ว ต้องปลอดภัยด้วย ซึ่งปีนี้ได้เชิญชวนให้คนในชุมชนโดยเฉพาะหนุ่มสาวได้หันมาแต่งกายแบบไทยมาร่วมงานสงกรานต์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีของไทย
“สงกรานต์จังหวัดร้อยเอ็ดมีน้ำจากบึงพลาญชัย ที่เป็นพื้นที่ใจกลางเมืองและมีน้ำที่สะอาด และมีความสะดวกสบาย โดยเฉพาะในถนนข้ามหอมมะลิมีกรณีทะเลาะวิวาทและความไม่เหมาะสมหลายประการ เนื่องจากว่า มีการดื่มสุรา แอลกอฮอล์ มีการทะเลาะเบาะแว้ง แสดงออกไม่สุภาพ ทำให้ผู้คนไม่สบายในการมาเที่ยว หลังจากมีการรณรงค์จัดพื้นที่ เล่นน้ำอย่างปลอดภัย มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เป็นการสร้างจิตสำนึกกระตุ้นทำให้พื้นที่นี้ ทั้งครอบครัว หนุ่มสาว ตลอดจนเด็กทีมาเล่นน้ำสงกรานต์ก็เล่นกันอย่างมีความสุข และปลอดภัย”
ประเพณีมหาสงกรานต์และเทศกาลอาหารไทย – อินโดจีน
ส่วนจังหวัดอุบลราชธานีก็ไม่น้อยหน้า ปีนี้จะจัดประเพณีมหาสงกรานต์และเทศกาลอาหารไทย – อินโดจีน โดยนางสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานีเปิดเผยว่า ในวันที่ 12 เมษายนจะมีการเปิดถนนดอกไม้และสายน้ำโดยชิญผู้สูงอายุ ทั้งหมด 106 ท่าน 106 ชุมชนมารดน้ำขอพรผู้ใหญ่ รวมไปถึงมีเทศกาลอาหารไทยอินโดจีน โดยมีร้านค้า อาหารพื้นเมืองที่อร่อยๆ มารวมตัวกันตลอดทั้ง 4 วัน และพื้นที่ยาวไปจนถนนริมมูล มีเรือล่องจุ๊น 7 ลำมาขายสินค้าราคาประหยัด มีเวทีแสดงกิจกรรมวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันหลายภาคส่วน
“เช้าวันที่ 13 เมษายนจะมีตักบาตรที่ลานเทียน และได้รับความร่วมมือจากตำรวจ ทหารเข้ามาควบคุมตรวจอาวุธ วัดระดับแอลกอฮอล์ในถนนดอกไม้และสายน้ำ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และเพื่อผู้ปกครองจะได้สบายใจขึ้นเมื่อลูกหลานมาร่วมงานสงกรานต์ที่จังหวัดอุบลราชธานี” นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี
“เชียงคาน” เมืองวัฒนธรรม ริมฝั่งโขง
ข้ามไปทางอีสานเหนือกันบ้างกับเมืองเล็กๆ ริมฝั่งโขงอย่างตำบลเชียงคาน จังหวัดเลยที่ปีนี้เตรียมงานสงกรานต์ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 12-18 เมษายน นายหล่ง แก้วนิรันด์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตําบลเชียงคาน เล่าว่า จะมีขบวนแห่ทุกวันและเล่นน้ำกันทุกวัน ตั้งแต่เช้าถึง 6 โมงเย็น มีการรักษาความปลอดภัย อบายมุขทั้งหมด โดยการออกนโยบายสาธารณะควบคุมไว้ และจัดให้มีพื้นที่เล่นน้ำมี 3 ที่ ได้แก่
“ถนนศรีเชียงคานจะรวบรวมวัฒนธรรมประเพณียุคใหม่กับเก่าเข้าด้วยกัน ถนนบ้านไม้ร้อยปี เรือนเก่า ปกติไม่มีงานก็มีคนมาเที่ยวเรือนหมื่น ถนนริมแม่น้ำโขง มีถนนทำด้วยไม้และขี่จักรยานริมโขง ปีนี้เรามีการจัดละเล่นสงกรานต์ ทุกรูปแบบและประเพณีทุกอย่างในประเทศไทยจะไปรวมอยู่ที่เชียงคาน” นายกเทศมนตรีฯ เล่า
ท่องเที่ยวสงกรานต์ สัมผัสเมืองตากในหลากวิถี
ขยับขึ้นไปที่ภาคเหนือพบกับ “ถนนข้าวเกรียบงาดำ” จังหวัดตากที่ นายอนันท์ชัย ทวีเกื้อกูลกิจ นายกเทศมนตรีเมืองตาก เล่าถึงไฮไลต์ของการจัดงานในปีนี้ว่า ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือการจัดงานให้สนุกสนานและปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์เพราะถือว่าวันสงกรานต์เป็นวันปีใหม่ของไทย ซึ่งปีนี้ได้จำลองงานวัด เพราะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ขาดหายไปจากวิถีชีวิตของคนในชุมชน จึงอยากให้ทุกคนที่มาเที่ยวได้สนุกสนานกับประเพณีโบราณ มาสัมผัสธรรมชาติของจังหวัดตาก และสิ่งที่โดดเด่นของสงกรานต์ที่นี่คือ นักท่องเที่ยวที่มาจะเป็นครอบครัวมากขึ้น พ่อแม่จูงปู่ย่าตายายมาเล่นน้ำอย่างวิถีไทย
ใส่เสื้อไทยลายดอก บอกลาสายเดี่ยวที่ถนนข้าวสุก
การจัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า ทำให้สงกรานต์มีความปลอดภัยอีกหนึ่งเสียงยืนยันจาก นายวิชัย ลิมป์วัฒนะชัย นายกเทศมนตรีตำบลวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทองเล่าว่า “ถนนข้าวสุก” มีการละเล่นสงกรานต์มาตั้งแต่สมัยบรรพกาล แต่หลายปีให้หลังได้มีแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องจนนำมาซึ่งการทะเลาะวิวาทและอุบัติเหตุ แต่ภายหลังการร่วมมือกับโครงการสงกรานต์ปลอดภัยมาตลอด 5 ปีไม่มีปัญหาเหล่านั้นอีกเลย
“สำหรับปีนี้เราก็คงจัดเหมือนทุกปีเพราะสงกรานต์ถือเป็นประเพณีวัฒนธรรมของไทย แต่จะเน้นด้านความปลอดภัย เน้นเรื่องไร้แอลกอฮอล์ให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะมีนักท่องเที่ยวจากภายนอกเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นจึงพยายามรณรงค์ให้ประชาชนรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยเอาไว้และเล่นน้ำกันอย่างครึกครื้นสนุกสนานกัน โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน” นายวิชัยกล่าว
สัมผัสเมืองมหาสงกรานต์ล้านนาที่เชียงใหม่
ปิดท้ายที่นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่บอกว่า ถ้าใครว่างก็สามารถไปเที่ยวเชียงใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนได้เลยเพราะมีกิจกรรมรออยู่มากมาย แต่ไฮไลต์ของปีนี้ที่ไม่อยากให้พลาดคือในวันที่ 13 เมษายนจะมีพิธีเปิดงานมหาสงกรานต์อย่างเป็นทางการ โดยอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ พระพุทธสิหิงค์ และมีในขบวนที่ตกแต่งแบบล้านนา พร้อมด้วยการแสดงต่างๆ
“ส่วนบริเวณโดยรอบคูเมือง นอกจากจะมีการเล่นน้ำ ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การก่อเจดีย์ทรายสุดส้าว การปักตุง กาดมั่ว และมีคนเชียงใหม่แต่งชุดพื้นเอาอาหารเหนือมาให้ชมให้ชิม มีงานหัตถกรรมมาให้เยี่ยมชมกัน และที่สำคัญมากอยากให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงใหม่ได้แต่งตัวสวยๆ คำว่าสวยในที่นี้ ถ้าเป็นไปได้คืออยากให้ใส่ชุดพื้นเมือง หรือไม่ก็อยากให้แต่งชุดสุภาพ เพราะที่เชียงใหม่ไม่ได้มีแค่เล่นน้ำอย่างเดียว แต่ยังมีกิจกรรมตามวัดต่างๆ ซึ่งถ้านุ่งสั้นหรือใส่เสื้อกล้าม บางวัดก็อาจจะไม่อนุญาตให้เข้า ซึ่งอาจจะเสียโอกาสได้ ที่สำคัญยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีอันดีเอาไว้ด้วย” นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ทิ้งท้าย
นอกจากความสนุกสนานที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว อย่าลืมที่จะมอบความรัก ความอบอุ่นให้กันในครอบครัวด้วยนะคะ ขอให้ทุกท่านมีสติ และปลอดภัย เดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยด้วยความสวัสดิภาพค่ะ
เรื่องโดย ภาวิณี เทพคำราม Team Content www.thaihealth.or.th