เตือน เด็กไทยติดบุหรี่ใหม่วันละหนึ่งพันคน
เลขาธิการมูลนิธิฯ เรียกร้องให้ผู้ปกครองและโรงเรียนร่วมมือกันลดจำนวนเด็กไทยที่จะติดบุหรี่เพิ่มขึ้นใหม่ หลังผลสำรวจพบเด็กไทยสูบบุหรี่กว่าสี่แสนคน
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เรียกร้องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ 12 มกราคม และวันครู 16 มกราคม ให้ผู้ปกครองเด็กและโรงเรียนร่วมมือกันในการพยายามลดจำนวนเด็กไทยที่จะติดบุหรี่ใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่วันละหนึ่งพันคน
ซึ่งประมาณเท่ากับผู้สูบบุหรี่ที่เลิกสูบหรือเสียชีวิตในแต่ละวันตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา อันทำให้จำนวนผู้สูบบุหรี่ไทยคงที่อยู่ที่ประมาณ 12 ล้านคน และการสำรวจล่าสุดพบว่ามีเด็กไทยอายุระหว่าง 15 ถึง 18 ปี สูบบุหรี่ถึงสี่แสนคน ร้อยละ 50 ของชายไทยอายุ 25-44 ปี ซึ่งอยู่ในวัยเป็นพ่อ และร้อยละ 8.8 ของครูสูบบุหรี่
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า ทุกฝ่ายในสังคมมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพของเยาวชน การเข้าไปเสพติดบุหรี่ของเยาวชนเป็นสาเหตุที่นำเยาวชนไปติดสิ่งเสพติดอื่น และโดยสถิติแล้ว กว่าร้อยละ 70 ของเด็กไทยที่ติดบุหรี่จะเสพติดบุหรี่ไปตลอดชีวิต ที่สำคัญการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังในผู้ใหญ่ไทยซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมสุขภาพและเสียชีวิตของคนไทย อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคถุงลมพอง เป็นผลจากการติดบุหรี่ขณะยังเป็นเด็ก
ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อไปว่า สังคมรอบตัวในวัยเด็กคือผู้ปกครองและครูมีอิทธิพลต่อการสูบบุหรี่ของเด็ก ๆ มากที่สุด โดยพฤติกรรมการสูบบุหรี่และทัศนคติต่อการสูบบุหรี่ของผู้ปกครอง เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสำคัญที่สุดที่จะกำหนดว่าเด็กคนหนึ่งจะสูบบุหรี่หรือไม่ โอกาสที่เด็กจะติดบุหรี่จะลดลง 7 เท่า หากเด็กรับรู้ว่าพ่อแม่ไม่ยอมรับการสูบบุหรี่อย่างแข็งขัน ในส่วนของครูที่สูบบุหรี่เป็นการสื่อสัญญาณต่อเด็ก ๆ ว่าการสูบบุหรี่เป็นกิจกรรมของผู้ใหญ่ ครูที่สูบบุหรี่ในโรงเรียนเป็นการสื่อถึงการยอมรับหรือการผ่อนปรนการสูบบุหรี่ในโรงเรียน และการทำให้โรงเรียนปลอดบุหรี่ 100% ลดโอกาสการติดบุหรี่ของนักเรียนทั้งระหว่างและหลังออกจากโรงเรียน
ศ.นพ.ประกิต เรียกร้องให้บิดามารดาเป็นแบบอย่างโดยการไม่สูบบุหรี่ ถ้ายังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ต้องพยายามไม่สูบบุหรี่ให้เด็ก ๆ เห็น บอกลูกหลานอย่างจริงจังว่า ไม่เห็นด้วยที่เด็ก ๆ จะริเริ่มสูบบุหรี่ ส่วนครูที่ยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ต้องไม่สูบในโรงเรียน กำหนดให้โรงเรียนปลอดบุหรี่ 100% มีการเรียนการสอนถึงพิษภัยของบุหรี่และสนับสนุนให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ทั้งในโรงเรียนและชุมชน
ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่