เตือน! หม่ำช็อคโกแลตวาเลนไทน์เสี่ยง “อ้วน”
ชี้สารสื่อรักมากด้วยไขมัน+น้ำตาล
“ซื้ออะไรให้ดีหนอ วาเลนไทน์ทั้งที ปีละครั้ง”
“ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้งามๆ เก๋ๆ สักดอก กุหลาบดอกไม้แห่งความรัก หรือจะเป็นตุ๊กตาน่ารักไว้ให้กอดแทนตัวเรา พร้อมกับการ์ดกับความในใจที่อยากบอกความในใจดีหรือเปล่า”
แต่กลับมาคิดอีกที อยากให้ชีวิตรักของเราหวานชื่นเหมือนกับช็อคโกแลตจะดีกว่า แถมราคาก็มีให้เลือกมากมายเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจพร่องจารบีเช่นนี้
แถมนักจิตวิทยาหลายคนยังเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็นตัวช่วยเสริมอารมณ์รัก และยังมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า ในช็อกโกแลตมีสารช่วยกระตุ้นสมองโดยออกฤทธิ์คล้าย แอมเฟตามีน เป็นตัวเบิกทางความรู้สึกลึกๆ แห่งรักได้ดีด้วย
ตกลงเลือกเอาช็อคโกแลตดีกว่า… ถ้านับนิ้วตอนนี้ก็เกือบครบสองมือ เหตุนี้จึงต้องเพิ่มจำนวนของขวัญแทนใจให้เท่ากับถนนความรักของเราผ่านทางลิ้นที่ฉ่ำไปด้วยช็อคโกแลตนั้น ชักเริ่มห่วงว่าหากความหวานของช็อคโกแลตตามจำนวนที่มากโข ถ้าเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเป็นอย่างไร
เผอิญโชคดีได้อ่านบทความของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มีนักวิชาการด้านโภชนาการหัวเห็ดอย่าง รศ.ดร.ประไพศรี ศิติจักรวาล หัวหน้าฝ่ายมนุษยโภชนา สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ฝากเตือนผ่านน้ำหมึกบนกระดาษที่อัดแน่นด้วยเคล็ดลับดีๆ ให้กับคนที่มีความรักหล่อเลี้ยงทุกคนว่า…
“แม้ว่าดอกกุหลาบ การ์ดจะเป็นสื่อรักในวันวาเลนไทน์ แต่สิ่งหนึ่งที่วัยหวานทั้งหลายเลือกเป็นสื่อกลางให้ฝ่ายตรงข้ามได้ทราบความจริงคือช็อคโกแลต
แต่สิ่งที่อยากเตือนคือ ช็อคโกแลตอุดมไปด้วยไขมันและน้ำตาลในปริมาณที่มากอยู่ ดังนั้นใครที่อยู่ในระหว่างการควบคุมน้ำหนักหรือต้องควบคุมอาหารจำพวกดังกล่าว จำเป็นต้องให้ความระมัดระวังในการบริโภค ไม่ใช่ดื่มด่ำกับความรักจน หม่ำช็อคโกแลตแบบไม่ยั้ง”
ข้อมูลของอาจารย์ท่านนี้ยังน่าสนใจอีก เพราะระบุว่า ปริมาณช็อคโกแลต 1 หน่วยบริโภค หรือประมาณ 50 กรัม จะมีปริมาณน้ำตาลเกิน 60% เท่ากับว่ามีปริมาณน้ำตาลประมาณ 28-30 กรัมต่อหน่วยบริโภค และมีไขมันถึง 15-20 กรัมเลยทีเดียว!!!
“และการทานช็อคโกแลตอาจจะกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายให้รู้สึกสบาย แต่ความรู้สึกสบายมากไป ปล่อยตัวปล่อยใจทานมากก็อาจทำให้ความรักนี้ไม่มีช่องว่างระหว่างเราเป็นแน่ เพราะความตุ้ยนุ้ยจะถามหานั่นเอง”
คงไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอก หากจะทานช็อคโกแลตที่เป็นสื่อรักที่มอบให้เฉพาะช่วงวันแห่งความรักนี้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา เราสองคนก็ไม่ได้ทานช็อคโกแลตมากเท่าใดนัก แต่หากเป็นพวกทานติดต่อมาก่อนหน้านั้น คงมีปัญหาเรื่องสุขภาพในภายหลังได้
และที่สำคัญเรามักให้ความสำคัญเรื่องของฉลากโภชนาการบริเวณห่อของช็อคโกแลตและขนมอื่นเป็นนิสัย เพราะพิจารณาว่าปริมาณบริโภคต่อครั้งเสมอๆ ทำให้การบริโภคความรักอันหวานชื่นของเราไม่เกินความพอดี หากระบุว่าให้ปริมาณบริโภคต่อ 2 หน่วย ก็แบ่งเก็บไว้ทาน 2 ครั้ง มิฉะนั้นพลังงานที่ได้จะต้องคูณสอง พลังงานที่ได้รับก็จะเกินความพอดี เปรียบเหมือนความรักของเราที่ขาดๆ เกินๆ ซึ่งมีความสมดุลเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ท้ายสุดเราก็ยังชวนกันไปแปรงฟัน เพื่อป้องกันฟันผุด้วยเหมือนกัน
ในเมื่อความรักของเราหวานจนทำให้ช็อคโกแลตจืดสนิทคงอาจเปลี่ยนไปเป็นช็อคโกแลตภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญ เล่นจริง เจ็บจริง เพื่อเพิ่มรสชาติชีวิตรักของเราท่าจะดีกว่า เพราะไม่มีทั้งไขมันและน้ำตาลให้กวนใจ
เรื่องโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต
Update : 29-08-51