เตือน “ครีมทาก้นขาว” อาจผสมสารอันตราย
ที่มา : MGR Online
แฟ้มภาพ
หมอผิวหนังเตือน "ครีมทาก้น" อาจผสมสารอันตราย ทั้งสเตียรอยด์ สารปรอท ไฮโดรควิโนน ทำให้ผิวดูขาวขึ้น แต่ผลข้างเคียงอื้อ ระบุ "ผิวก้น" มีการเสียดสีบ่อย ทำให้คล้ำลง แต่ผลัดเซลล์ผิวได้ตามธรรมชาติ ย้ำทาครีมไม่ช่วยอะไร
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการรีวิวครีมทาก้นขาว ว่า ผิวหนังบริเวณก้นเป็นพื้นที่ใต้ร่มผ้า เหมือนกับหน้าท้องและท้องแขน ซึ่งปกติจะขาวกว่าบริเวณนอกร่มผ้าอยู่แล้ว แต่บริเวณก้นจะมีการเสียดสีมากกว่าทำให้ผิวบริเวณนั้นคล้ำกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็จะมีการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติในรอบ 28 วันอยู่แล้ว ทำให้ผิวมีเซลล์ที่สดใหม่ สีตามกรรมพันธุ์ขึ้นมาได้ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างมีเม็ดสีเยอะเลยไม่ได้ขาวจั๊ว อาจจะขาวเหลือง อย่างไรก็ตาม ในทางการแพทย์สามารถทำให้ผิวบริเวณนั้นขาวขึ้นได้จากการทำลายโครงสร้างเม็ดสีผิว โดยการเลเซอร์ ยากิน ยาฉีด แต่ทุกวิธีการล้วนมีผลข้างเคียง จึงต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์และทำเฉพาะที่จำเป็น
พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า ส่วนครีมที่ขายตามท้อตลาดแล้วบอกว่าทำให้ผิวบริเวณนั้นขาว ส่วนมากพบว่าความขาวที่ได้เกิดจากผลข้างเคียงของสารนั้นๆ เช่น สเตียรอยด์ ทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้นหดตัว ผิวฝ่อลง ทาไปนานๆ เนื้อจะบุ๋ม เส้นเลือดฝอยขยายตัวมาก หรือสารปรอท เป็นสารฟอกสี ทำให้การสร้างเม็ดสีน้อย กระจายออก มีผลจ้างเคียงเพราะมีการดูดซึมเข้าร่างกาย มีพิษต่อตับ ไต ไตวาย ตายได้ และไฮโดรควิโนน เป็นยารักษาฝ้ายังใช้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะโดนแดดหน้าไหม้ ทานานหน้าแดงเป็นลูกเชอรี่ 2-3 เดือนก็จะดำเหมือนไข่ปลาเล็กๆ แล้วจะเกิดการจับตัวของเม็ดสีเป็นก้อน รักษายา เลเซอร์ก็ไม่หมด
“ครีมที่เป็นข่าวคิดว่าอาจจะเป็น 1 ใน 3 ตัวที่พบบ่อย คือสเตียรอยด์ ปรอท หรือไฮโดรควิโนน หรือเอามาผสมกันหรือไม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการจับกุมบ่อยๆ หากเป็น 3 ตัวนี้ไม่แนะนำเลย เพราะมีผลข้างเคียงมาก ขาวก็ขาวกระดำกระด่าง และเนื่องจากผิวก้นมีการเสียดสีตลอดเวลาทำให้ขาวอย่างไรก็มีโอกาสกลับมาดำอีก สิ่งที่ควรทำคือให้ผิวบริเวณนั้นมีสุขภาพดีมากกว่าอาจจะมีการสครับ มีกรดผลไม้อ่อนๆ แล้วก็ทาครีมบำรุง แค่นั้น” พญ.มิ่งขวัญ กล่าว