เตือนอันตรายจากควันธูป
สสจ.อุบลฯ เตือนอันตรายจากควันธูปมีสารก่อมะเร็ง
แฟ้มภาพ
น.พ.สุรพร ลอยหา สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลออกพรรษาประชาชนนิยมเข้าวัด ฟังธรรม ปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ซึ่งการไปวัดเพื่อไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละครั้งจะมีการจุดธูปเป็นจำนวนมากๆ จากนั้นธูปที่เผาไหม้จะปล่อยฝุ่นละอองและสารมลพิษออกมามากมาย มีสารบางชนิดที่อาจเป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะสารเบนซีน (Benzene), 1,3 บิวทาไดอีน (1,3-Butadiene) และเบนโซเอไพรีน (Benzo(a)pyrene) เป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการเผาไหม้ของกาว ขี้เลื่อยและน้ำหอมในธูป สารดังกล่าวสามารถก่อมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
นอกจากนี้ในควันธูปยังมีสารมลพิษอีกหลายชนิดที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น มีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ เช่น ตาแห้ง แสบตา น้ำตาไหล ระคายเคืองจมูก จาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก และยังทำให้ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า ง่วงนอน และหมดสติได้หากสูดดมกลิ่นธูปในระยะเวลายาวนาน
น.พ.สุรพร กล่าวต่อว่า การป้องกันตนเองและบุคคลรอบข้างเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ จึงควรหลีกเลี่ยงการจุดธูปในบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเทหรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้องแอร์ ห้องที่ไม่มีประตูหน้าต่าง ใช้ธูปขนาดสั้นแทนธูปขนาดยาวเพื่อให้เกิดควันในระยะเวลาที่สั้นกว่า สำหรับศาลเจ้าควรตั้งกระถางธูปไว้นอกอาคารหรือในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกและเมื่อเสร็จพิธีการควรดับหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายและเสี่ยงเกิดไฟไหม้ที่มีสาเหตุจากความประมาทได้
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาสนสถาน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสควันธูปเป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง และหลังการสัมผัสควันธูปควรล้างมือล้างหน้าล้างตาให้บ่อยขึ้น และกลุ่มเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ถุงลม ปอด นับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือสูดดมควันธูป หากไม่สามารถเลี่ยงได้ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการพักผ่อนหรือนอนหลับบริเวณที่มีการจุดธูป และหมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองจากควันธูปที่อาจตกค้างได้
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง