เตือนหน้าฝนระวังป่วย 5 กลุ่มโรค
ที่มา: เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
ในช่วงฤดูฝนแบบนี้สิ่งที่เราป้องกันได้ก็คือการพกร่ม หรือสวมใส่ชุดกันฝน ยิ่งช่วงนี้ฝนตกหนักมีน้ำขัง ทำให้การแพร่ขยายของเชื้อโรคยิ่งมีจำนวนมากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วเราควรรักษาความสะอาดทั้งร่างกาย และบริเวณรอบๆ ที่พักอาศัยของเรา เพื่อให้ห่างใกลจากเชื้อโรค
นพ.ประภาส วีระพล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้ประกาศเตือนภัยสุขภาพว่าเมื่อเข้าสู่หน้าฝนสภาพอากาศชื้นสูง เชื้อโรคแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว แนะระวังการเจ็บป่วย 5 กลุ่มโรค ทั้งติดเชื้อทางระบบหายใจ โรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ มือ เท้า ปากและโรคเลปโตสไปโรสิส รวมถึงฟ้าผ่าและภัยจากอุบัติเหตุทางถนน เผยข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรคของ สสจ.นครพนม โรคข้างต้นที่พบมากเป็นอันดับ 1 คือ ปอดบวมรองลงมา คือ โรคไข้หวัดใหญ่ แนะป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด ทายากันยุงหรือใช้สมุนไพรไล่ยุง ไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
ทั้งนี้ นพ.ประภาส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งสภาพอากาศจะมีความชื้นสูงและเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เป็นสาเหตุเกิดโรคหลายชนิดและสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเจ็บป่วย ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศเรื่องการป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูฝน แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ที่ควรเฝ้าระวัง ประกอบด้วย 1) โรคติดเชื้อทางระบบหายใจ ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดบวม 2) โรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้สมองอักเสบ โรคมาลาเรีย โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3) โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคอหิวาตกโรคและโรคไวรัสตับอักเสบ เอ 4) โรคติดต่ออื่น ๆ ได้แก่ โรคมือ เท้า ปากและโรคเลปโตสไปโรสิส และ 5) ภัยสุขภาพอื่น ๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ อันตรายจากสัตว์มีพิษ ภัยจากฟ้าผ่า และภัยจากอุบัติเหตุทางถนน
อย่างไรก็ตามข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ตั้งแต่ต้นปี 2559 โรคข้างต้นที่พบมากเป็นอันดับ 1 ได้แก่ โรคปอดบวม พบผู้ป่วย 664 ราย รองลงมา คือ โรคไข้หวัดใหญ่ พบผู้ป่วย 297 ราย โรคมือ เท้า ปาก พบผู้ป่วย 103 ราย และโรคไข้เลือดออก พบผู้ป่วย 92 ราย ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต ส่วนโรคไข้เลือดออก ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค และมักมีการระบาดในช่วงหน้าฝน ประชาชนสามารถป้องกันตนเองได้ โดยไม่ให้ถูกยุงลายกัด โดยการสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด รวมถึงนอนในมุ้ง ทายากันยุงหรือใช้สมุนไพรไล่ยุง ป้องกันไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายโดยใช้วิธี 3 เก็บ (เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ) เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และการกำจัดและควบคุมยุงตัวแก่ เช่น การพ่นสารเคมีกำจัดยุงลาย เป็นต้น.