เตือนหญิงงมหอยแครงเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

ชี้แช่น้ำสกปรกนานเสี่ยงโอกาสติดเชื้อ

 เตือนหญิงงมหอยแครงเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

          นางบุษบงก์ วิเศษพลชัย พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยนาเกลือ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้นำเสนองานวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มเสี่ยงที่ประกอบอาชีพงมหอยแครงในชุมชนนาเกลือ ในการประชุมวิชาการสาธารณสุขเขต 8 และ 9 ซึ่งพบว่า อาชีพสตรีงมหอยแครงเป็นกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากต้องแช่น้ำสกปรกเป็นเวลานาน ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณอุ้มเชิงกรานซ้ำๆ ทำให้เกิดการตกขาว ยิ่งมีโอกาสทำให้เชื้อโรคต่างๆ ติดได้ง่าย รวมถึงเชื้อไวรัสเอชพีวี ต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก

 

          “แม้ว่ายังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่าน้ำในวังหอยที่ไม่ไหลเวียนนานกว่า 8 เดือน ที่ถือว่าเป็นน้ำสกปรกเพราะมีขี้หอยสะสมอยู่ สัมพันธ์อย่างไรกับการป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกแต่องค์การอนามัยโลกก็ยืนยันว่า หากเกิดการเชื้อซ้ำๆ ในบริเวณอุ้มเชิงกรานย่อมมีโอกาสต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้น แม้สตรีกลุ่มนี้จะไม่เป็นมะเร็งปากมดลูก แต่ก็พบมีอาการติดเชื้อในช่องคลอดเป็นจำนวนมาก”

 

          นางบุษบงก์กล่าวว่า ในการสำรวจครั้งนี้ ศึกษาในสตรีที่ประกอบอาชีพที่งมหอยแครงในชุมชนนาเกลืออายุ 35 – 60 ปีจำนวน 62 ราย จากทั้งหมด 78 คน พบว่า ปกติ 47 ราย มีเชื้อรา 15 ราย พบว่า เมื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกพบว่า เมื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกพบว่าผู้ป่วยอยู่ในระยะ 2 จำนวน 1 ราย และระยะที่ 3 จำนวน 1 ราย โดยที่ผู้ป่วยไม่ทราบมาก่อนและไม่เคยตรวจคัดกรองด้วย ทางสถานีอนามัยได้ส่งต่อไปรักษามะเร็งปากมดลูกจนหายขาดที่สำคัญยังส่งผลให้สตรีกลุ่มอาชีพอื่นๆ ที่ไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูกมาก่อนตัดสินใจมาตรวจมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น ซึ่งพบว่ามีสตรีในหมู่บ้าน 70 คน ร่วมโครงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกซึ่งได้ให้ความรู้ควบคู่ด้วย

 

          ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูล พบว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ประกอบอาชีพงบหอยแครงเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าอาชีพอื่นๆ นอกจากสตรีกลุ่มนี้ จะต้องแช่น้ำเป็นเวลานาน โดยไม่สวมกางเกงใน ตั้งแต่ 05.50 – 15.00 น. เป็นประจำทุกวัน เพื่อแลกกับค่าแรง 250 – 300 ต่อวัน และน้ำในวังหอยสกปรกอย่างมากแล้ว สตรีกลุ่มนี้ยังกินยาคุมเป็นเวลานานติดต่อกันอย่างไม่ถูกต้อง โดยกินยาคุมเพื่อไม่ให้เป็นประจำเดือน คือ กินยาติดต่อกันโดยไม่เว้นระยะเนื่องจากสตรีที่ประกอบอาชีพนี้มักเป็นกลุ่มคนด้อยโอกาส จึงต้องการทำงานโดยไม่เว้นวันหยุด เพราะหากหยุดหมายถึงไม่ได้รับเงินค่าจ้างที่จะนำมาใช้ในแต่ละวัน

 

          “ได้แนะนำสตรีกลุ่มนี้ว่า เมื่อขึ้นจากน้ำกลับบ้านให้รับรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายโดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาล้างช่องคลอดกับอวัยวะเพศใช้เพียงน้ำสะอาดและสบู่ก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้วางแผนต่อยอดโครงการติดตามผลการเป็นมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอาชีพดังกล่าวเป็นระยะๆ ต่อไปด้วย พร้อมกันนี้ขอเตือนผู้ประกอบอาชีพที่มีความจำเป็นในการต้องแช่น้ำนานๆ หรือ ผู้ที่กินยาคุมติดต่อกันนานๆ รวมถึงผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ควรได้รับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก” นางบุษบงก์กล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน

 

update : 08-09-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code